ข่าวโควิดวันนี้! “หมอจุฬา” เล่าเรื่องน่ารู้สำหรับการระบาดของโควิดในไทย เผยวันนี้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 209 รายสูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา ขณะที่ยอดเสียชีวิตน่าห่วง ครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตวันนี้ดับภายใน 7 วันหลังติดเชื้อ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เรื่องน่ารู้สำหรับระบาดของไทย
เรื่องน่ารู้สำหรับระบาดของไทย
- วันนี้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มสูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา มีจำนวนถึง 209 คน (ชาย 37 คน หญิง 172 คน)
- จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ 39 คน ราวครึ่งหนึ่งเสียชีวิตภายใน 7 วันหลังทราบว่าติดเชื้อ
กลุ่มที่เสียชีวิตนั้น มีถึง 8 คน (21%) ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี และมี “5 รายที่ไม่มีโรคประจำตัว”
ทั้งนี้ ผู้ที่เสียชีวิตนั้น 13 คนเคยมีประวัติได้รับวัคซีนมาก่อน โดยที่ 5 คนได้รับวัคซีนมาแล้ว 3 เข็ม และ 3 คนได้รับวัคซีน 2 เข็มมาแล้วไม่เกิน 4 เดือน
ที่เล่ามาข้างต้น อยากให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร การใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่น เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระ ยังระบุอีกว่า สถานการณ์ไทยเรา การระบาดยังคงเป็นไปอย่างรุนแรง กระจายไปทั่ว กลไกนโยบายด้านสาธารณสุขนั้น ยังไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์จริงได้ (Responsiveness) ดังจะเห็นได้จากรายงานข่าวในแต่ละวันที่เห็นคนติดเชื้อและไม่สามารถเข้าถึงบริการดูแลรักษาได้ ทั้งในกลุ่มคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย คนที่มีที่พักอาศัยคับแคบแออัด รวมถึงครอบครัวที่มีเด็กเล็กติดเชื้อมีอาการป่วย
ปัญหาการรับรู้สถานการณ์จริง และการเกาไม่ถูกที่คัน สะท้อนให้เห็นภาพปัจจุบัน ที่ฝ่ายนโยบายยืนยันว่าเตียงเพียงพอ ไม่มีปัญหาคนต้องนอนข้างถนน ตรวจสอบกับเหล่าข้าราชการแล้ว แต่สวนกระแสข่าวที่ประชาชนเห็น
สิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ การดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว (และเหลือง) จำนวนมากที่ต้องการการดูแล ให้คำปรึกษา จัดหาที่พักกักตัวที่เหมาะสมให้เพียงพอ และให้การดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
ควรตระหนักว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถทำ home isolation ได้ แตกต่างจากในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีอีกไม่น้อยที่ยังไม่มีความรู้และทักษะเพียงพอในการจัดการตนเองและครอบครัวยามที่เกิดการติดเชื้อหรือป่วย
เหนืออื่นใด ปรากฏการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เห็นอยู่นี้ย่อมสะท้อนให้เห็นว่านโยบายการควบคุมป้องกันโรคยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หากมัวแต่เหยียบคันเร่งเศรษฐกิจ การระบาดในประเทศจะหนักหนากว่าเดิมและส่งผลกระทบย้อนกลับมาทั้งด้านปัญหาสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมระยะยาว
ย้ำอีกครั้งว่า Long COVID จะเป็นภาระใหญ่สำหรับบุคคล ครอบครัว และประเทศ จึงควรดำเนินนโยบายโดยดำรงตนบนพื้นฐานของความไม่ประมาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ เตือน! ‘อัตตาหิ อัตตโน นาโถ’ หลังยอดโควิดพุ่ง 79.01%
- ‘WHO’ ย้ำอีกรอบ โอไมครอน BA.2 อาการไม่รุนแรงกว่าสายพันธุ์ BA.1
- โควิดวันนี้สาหัสมาก!! ยอดติดเชื้อทะลุ 2 หมื่นรายแล้ว เสียชีวิตเพิ่มอีก 39 ราย