เช็คอาการโอไมครอน แพทย์เตือนมีอาการแบบนี้รีบตรวจ ATK ทันที พร้อมคาดภายใน 1-2 สัปดาห์แนวโน้มยังทรงตัวระดับสูงในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศยกระดับเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยมีมาตรการดังนี้
- งดเข้าสถานที่เสี่ยง
- งดทานอาหารร่วมกัน ดื่มสุราในร้าน
- เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ห้าง
- เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน
- งดร่วมกิจกรรม กลุ่มตามเกณฑ์ต่างๆ
- มาตรการทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50-80
- ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดหากจำเป็นใช้รถยนต์ส่วนตัว
- เลี่ยงไปต่างประเทศ
- หากเข้าประเทศต้องปรับตัวในสถานที่กักกัน
สถานการณ์โควิดล่าสุด
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา ระบุว่า สถานการณ์โควิดทั่วโลกล่าสุด รัสเซีย เยอรมนี บราซิล ยังติดเชื้อสูงขึ้น รวมถึงยังพบว่าคนที่ไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเวียดนาม และสิงคโปร์ ยังติดเชื้อสูง จึงต้องเฝ้าติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การระบาดของโอไมครอนทั่วโลกมี 2 สายพันธ์ คือ
- BA.1
- BA.2
โดยทั้ง 2 สายพันธ์ มีความรุนแรงพอ ๆ กัน แต่ BA.2 จะแพร่เชื้อเร็วกว่าประมาณ 1.4 เท่า และประเทศไทยมีเปอร์เซ็นต์พบ BA.2 เพิ่มขึ้นกว่า 50% แล้ว จากการตรวจของกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า BA.2 จะแพร่ระบาดเร็วขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สถานการณ์ในประเทศไทย
ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย การติดเชื้อเฉลี่ย 14 วัน พบมีผู้ติดเชื้อถึง 15,981 ราย จำนวนติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น มีโอกาสเข้าไปสู่กลุ่มเสี่ยง ทำให้มีอาการปอดอักเสบเพิ่มขึ้นเกือบ ๆ 800 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 25 ราย โดยวันนี้จำนวนผู้เสียชีวิต 32 ราย ยังเป็นผู้สูงวัย และโรคเรื้อรัง โดยไม่พบการฉีดวัคซีนและบูสเตอร์โดส จึงขอรณรงค์ให้รีบเข้ามาฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ พบการติดเชื้อ 108,625 ราย เป็นคนไทย 96.1% ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ เช่น เมียนมา รัสเซีย กัมพูชา โดยส่วนใหญ่ยังพบการติดเชื้อตามสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ คลัสเตอร์ และสัมผัสใกล้ชิดกัน
อัพเดทอาการโอไมครอน
ส่วนอาการที่พบยังมีอาการป่วยกว่า 40% ส่วนใหญ่มีอาการดังนี้
- เจ็บคอ
- ไอ
- มีไข้ต่ำ ๆ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่น 608 ก็จะมีอาการหนักได้ เช่น เชื้อลงปอดแล้ว หากประชาชนมีอาการเริ่มแรกคือ เจ็บคอ ไอ ให้รีบตรวจ ATK ทันที เพื่อจะได้ทราบผล นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กยังมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนกลุ่มที่ยังต้องเฝ้าดูสถานการณ์ต่อเนื่องคือ กลุ่ม 18 จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ อีกทั้งการคาดการณ์ผลจากมาตรการป้องกันและควบคุมโรค พบว่าเกินเส้นสีน้ำตาลไปแล้ว ที่อาจจะมีการละเลยมาตรการตามกระทรวงสาธารณสุขกันไปบ้าง เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตมีเพิ่มขึ้นตาม แม้สัดส่วนจะไม่มากก็ตาม
แนวโน้มโควิดเพิ่มสูงขึ้น
นพ.จักรรัฐ ยังกล่าวอีกว่า การกระจายของโอไมครอนได้ติดเชื้อไปแล้วทั่วประเทศ และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยพบว่าการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะวัยทำงานและวัยเด็ก ปัจจัยที่สำคัญคือการรวมกลุ่ม ทานอาหารร่วมกัน แม้เด็กมีอาการติดเชื้อ แต่อาการที่พบยังไม่รุนแรง รวมถึงยังต้องติดตามกลุ่มผู้สูงอายุต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นพ.จักรรัฐ ยังตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องสถานการณ์โควิด-19 โอไมครอน BA.2 ในประเทศไทยพบมากน้อยเพียงใด และอาการเป็นอย่างไร ว่า อาการไม่ต่างจาก BA.1 แต่พบว่ามีการแพร่เชื้อเร็ว และยังอยู่ในการติดตามสถานการณ์ การแพร่เชื้อยังมาก จึงขอให้ดูแลตนเองเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปยังกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เตือนภัยโควิดระดับ 4’ ยกทุกจังหวัด ‘เสี่ยงสูง’ งดเข้าสถานที่เสี่ยง-ไม่ดื่มสุราในร้าน
- ‘อนุทิน’ สั่ง ‘สปสช.’ เพิ่มคู่สาย รับผู้ป่วยโควิด-19 เข้าระบบรักษา
- โควิดวันนี้ ผงะ! ‘นครศรีธรรมราช’ วันเดียวพุ่งเกือบ 1 พันราย พบ ‘ฉีดวัคซีน 2 เข็ม’ ยังเสียชีวิต