‘โอไมครอน’ ร้ายยิ่งกว่าซอมบี้!! “สสส.” ชี้แค่เปิดปากก็แพร่เชื้อได้ แค่พูดคุย ตะโกน ไอ จาม เชื้อยิ่งกระจายออกมาง่าย แนะ 5 วิธีอยู่ให้รอดและปลอดภัย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ที่กำลังรุกคืบและระบาดไปทั่วโลก หวังเข้าแทนที่เดลตาในขณะนี้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่แพร่เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์เดลตา ทำให้ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยอาการที่ไม่รุนแรง ทำให้หลายคนประมาท ดังนั้น สสส. ได้แนะนำ 5 แนวทางต่อสู้กับ “โอไมครอน” เพื่อเอาตัวรอดและปลอดภัยจากวายร้ายสายพันธุ์นี้
“โอไมครอน” ไม่ต้องกัดก็แพร่เชื้อได้
1. โอมิครอน ไม่ต้องกัด แค่เปิดปาก ก็แพร่เชื้อได้ แม้เชื้อไม่ค่อยลงปอด แต่ไปเกาะเซลล์ผนังคอแทน เมื่อพูดคุย ตะโกน ไอ จาม เชื้อกระจายมากกว่า และง่ายกว่า แม้เชื้อโอไมครอนจะไม่ลงปอด ทำให้ความเสี่ยงในการป่วยหนักลดลง แต่เชื้อโอมิครอนกลับไปเกาะบริเวณเซลล์ผนังลำคอจำนวนมาก เมื่อผู้ติดเชื้อพูดคุย ตะโกน ไอ จาม เชื้อจึงกระจายออกมาง่าย และมากกว่า ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย
2. ยิ่งอยู่ในพื้นที่ปิด ละอองเชื้อที่แห้ง ลอยไกลอยู่ได้นาน แม้ผู้ติดเชื้อไม่อยู่แล้ว เชื้อโควิดถูกห่อหุ้มด้วยน้ำมูก หรือ น้ำลาย แต่เวลาอยู่ในพื้นที่ปิด เมื่อน้ำมูก หรือน้ำลายระเหยแห้งไป เชื้อโควิด-19 ที่มีขนาดเล็กลง จะสามารถล่องลอยไปไกล และตกค้างในอากาศได้นาน ไวรัส ซึ่งคือน้ำมูกหรือน้ำลาย (เส้นผ่านศูนย์กลาง มากกว่า 5 ไมครอน) ฝอยละอองขนาดใหญ่ น้ำหนักของน้ำมูกหรือน้ำลาย ทำให้ลอยตกทันที เมื่อระเหยเป็น “ไวรัส” (เส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 5 ไมครอน) ฝอยละอองขนาดเล็ก ลอยในอากาศได้นาน
3. พื้นที่ปิด หรือระบายอากาศไม่ดี เสี่ยงเจอเชื้อตกค้าง การเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ มีส่วนช่วยในการลดการสะสมของเชื้อโรคได้ ทั้งนี้ การเปิดช่องระบายอากาศควรเปิดให้ทแยงด้านกัน เพื่อทำให้อากาศเกิดการถ่ายเทได้รอบบริเวณมากที่สุด ไม่เหลือการตกค้างของเชื้อโรค
- ควรเปิดระบายอากาศด้านทแยงกัน ช่วยระบายอากาศได้ดีกว่า
- ไม่ควรเปิดระบายอากาศฝั่งตรงข้ามกัน อาจมีเชื้อโรคตกค้าง
- ควรเปิดระบายอากาศครั้งละ 5-10 นาที ทุก 2 ชั่วโมง ถ้ามีข้อจำกัด อาจเปิดระบายก่อนเริ่มใช้ห้อง ระหว่างพัก และก่อนเลิกใช้
4. ในพื้นที่ปิดเชื้อแพร่ยกกำลัง 3 นอกจากการเว้นระยะห่างแล้ว การเลี่ยงไม่อยู่ในพื้นที่ปิดก็ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะภายในพื้นที่ปิด เชื้อจะสามารถแพร่ได้ถึง 3 ทางได้แก่ ระยะใกล้ติดจากฝอยละอองขนาดใหญ่ ระยะไกลติดจากฝอยละอองขนาดเล็ก ระยะประชิดติดจากการสัมผัส
3 เส้นทางการติดเชื้อ
- ระยะไกล ติดจากฝอยละอองขนาดเล็ก
- ระยะใกล้ ติดจากฝอยละอองขนาดใหญ่
- ระยะประชิด ติดจากการสัมผัส
5. วิธีเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเท ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพ สวมอย่างถูกวิธี กระชับใบหน้า เว้นระยะห่าง ล้างมือ และฉีดวัคซีน การเลือกสวมหน้ากากที่มีประสิทธิภาพเหมาะสูง เช่น N95 หรือ KN95 โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่แออัด มีคนจำนวนมาก ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มาก แต่ทั้งนี้ต้องสวมให้ถูกวิธี และกระชับใบหน้า เพราะการสวมหน้ากากไม่กระชับอาจเกิดช่องโหว่ให้เชื้อโรดลอดเข้ามาได้ ได้แก่ ช่องเหนือจมูก ช่องข้างแก้ม และช่องใต้คาง
- หน้ากากผ้า ลดความเสี่ยง 56%
- หน้ากากอนามัย ลดความเสี่ยง 66%
- หน้ากาก N95/KN95 ลดความเสี่ยง 83%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แย่แล้ว!! ยารักษาโควิด ยับยั้งโอไมครอน BA.1 ได้แต่ต้านสายพันธุ์ BA.2 ไม่ไหว
- ‘โอไมครอน BA.2’ สายพันธุ์ใหม่ รุนแรงระดับไหน
- เช็คที่นี่! วัคซีนแต่ละชนิด สู้ ‘โอไมครอน’ ได้แค่ไหน เผย ‘Long COVID’ มีมากถึง 200 อาการ