COVID-19

‘อนุทิน’ รับผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งจากโอไมครอน ลั่นยังคุมได้ ขอให้เร่งฉีดวัคซีน

“อนุทิน” ชี้โอไมครอนติดง่าย ทำยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง แต่กลุ่มอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตลดลง ย้ำรีบฉีดวัคซีน ป้องกันโรคเข้มข้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอน แพร่ได้ง่าย แต่ไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา และคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว

โอไมครอน

ดังนั้น แม้ปัจจุบันจะมีผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนธันวาคม 2564 ที่มีผู้ติดเชื้อ 3,500-4,000 คนต่อวัน ถือว่าอัตราป่วยหนักและเสียชีวิตลดลง

นอกจากนี้ หากเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อกับประเทศอื่นทั่วโลก จะเห็นได้ว่าไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่ามาก ซึ่งเป็นเพราะคนไทยให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่แนะนำอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น ขอย้ำให้มารับวัคซีนตามกำหนด ซึ่งขณะนี้กำลังฉีดเข็มกระตุ้น

ขณะเดียวกัน ขอให้ระมัดระวังตัวเอง เนื่องจากการติดเชื้อที่พบส่วนใหญ่มาจากการสังสรรค์และการรวมตัวกันจำนวนมาก จึงขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานานเกินไป ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงอยู่บ้านที่มีผู้สูงอายุ

อนุทิน 2

ถ้าไปสถานที่เสี่ยงสูง เช่น โรงพยาบาลหรือสถานที่อากาศถ่ายเทไม่ดี อาจใส่หน้ากากเพิ่มเป็นสองชั้น และระวังตนเองตลอดเวลา

สำหรับการรายงานสถานการณ์ต่อจากนี้ อาจมีการปรับรูปแบบเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากที่สุด ซึ่งการรายงานสถานการณ์โควิดของประเทศไทย นานาชาติให้ความเชื่อมั่นว่ามีความโปร่งใส รวมทั้งไทยยังมีมาตรการเข้มข้นกว่าประเทศอื่น

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ เป็นไปตามการคาดการณ์และควบคุมได้ จากช่วงแรก อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2% ขณะนี้ลดลงมาเหลือประมาณ 0.22% ถือว่าค่อนข้างต่ำ

ส่วนการฉีดวัคซีนมีผลการศึกษาพบว่า หลังฉีดเข็มสองไปแล้วช่วงเวลาหนึ่งภูมิคุ้มกันจะลดลง ดังนั้น จำเป็นต้องฉีดเข็มสามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่ม ซึ่งตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่า การฉีดเข็มหนึ่งและสองรวมกันควรได้ประมาณ 80% ของประชากร และเข็มสามควรได้ 80-90% ของเข็มสอง เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo