อธิบดีกรมควบคุมโรค ไขข้อสงสัย ทำไม ? ‘ระยะห่าง’ การฉีดวัคซีนในเด็ก ที่ศูนย์ฉีดโรงเรียนและศูนย์ฉีดโรงพยาบาล จึง ‘แตกต่างกัน’
หลังจากวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก (ไฟเซอร์ฝาส้ม) ล็อตแรกถึงประเทศไทย และกำหนดให้เริ่มฉีดให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งจะเริ่มฉีดในวันที่ 31 มกราคมนี้ โดยจะฉีดให้เด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคก่อน ซึ่งจะเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาล จากนั้นล็อตถัดไปจะเป็นการรับวัคซีนที่สถานศึกษาในทุกจังหวัด ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้รับการลงทะเบียน โดยจะเริ่มจากเด็ก ป.6 ก่อน แล้วลดหลั่นไปตามระดับชั้น
อย่างก็ตาม มีการกำหนดว่าการฉีดที่โรงพยาบาล จะมีระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และ เข็ม 2 ระยะเวลา 3 – 12 สัปดาห์ ขณะที่ฉีดที่โรงเรียนมีระยะห่าง 8 สัปดาห์ จึงเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมระยะห่างการฉีดวัคซีนในเด็กจึงแตกต่างกัน?
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปกติการฉีดวัคซีนที่มีหลายๆ โดส อย่างเช่น 2 โดส 3 โดส ก็จะมีระยะห่างในการฉีดวัคซีน ในเอกสารกำกับยา หรือในการขึ้นทะเบียน เขากำหนดไว้ 3 – 12 สัปดาห์
ในตอนแรกเรากำหนด 3 – 14 สัปดาห์ ซึ่งปัจจัยในการะยะห่างของการฉัดวัคซีนมีอยู่ 3 ปัจจัย ประการแรกก็คือ ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน ประการที่สอง คือเรื่องความปลอดภัย และประการที่สามคือ เรื่องสถานการณ์การระบาดของโรคนั้นๆ
ถ้าเราฉีดห่างภูมิคุ้มกันจะขึ้นดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ทราบอยู่ว่าในตอนต้นปีมีการระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนค่อนข้างมาก เราก็เลยต้องกำหนดระยะเวลาให้ใกล้กัน คือ 3 – 4 สัปดาห์ แต่มาถึง ณ เวลานี้เราพบว่า การระบาดไม่ได้รุนแรงมากนัก เพราะฉะนั้นหลังจากดูข้อมูลทั้งหมด และเราก็มีการปรึกษารวมทั้งคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ก็เลยกำหนดไว้อย่างนี้คือ
1.ถ้าการฉีดที่ใช้โรงเรียนเป็นศูนย์กลาง หรือ school besed เราจะกำหนดไว้ที่ 8 สัปดาห์ เนื่องจากสร้างภูมิคุ้มกันค่อนข้างดี และผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์การระบาดไม่รุนแรง พอเราฉีดในโรงเรียน ส่วนใหญ่จะฉีดเป็นกลุ่ม เพราะฉะนั้นจะต้องกำหนดเวลาฉีดค่อนข้างแน่ชัด ไม่ให้เกิดความยุ่งยาก
2.ฉีดในเด็กป่วยหรือเด็กที่มีโรคประจำตัว เราจะใช้โรงพยาบาลเป็นศูนย์ฉีด และจะมีกุมารแพทย์ที่เขาดูแลผู้ป่วยหรือเด็กคนนั้นๆ เป็นผู้พิจารณา เนื่องจากแพทย์จะรู้ข้อมูลเด็กคนนั้นว่าจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีน เร็วหรือช้าอย่างไร เพราะฉะนั้นเราก็จะกำหนดช่วงไว้ที่ 3 – 12 สัปดาห์ เพื่อให้กุมารแพทย์สามารถใช้ดุลยพินิจประวัติคนไข้ ในการตัดสินใจ
“นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไม ระบุที่โรงเรียนไว้ 8 สัปดาห์ และระบุที่โรงพยาบาลไว้ 3 – 12 สัปดาห์ เพื่อให้กุมารแพทย์และผู้ปกครอง ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจกำหนดระยะเวลาในการฉีดอย่างเหมะสม” นพ.โอภาส กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เปิดสูตรฉีด’ วัคซีนเด็ก สธกำลังตรวจสอบคุณภาพ ก่อนจะส่งไปจุดฉีดทั่วประเทศ
- ‘ไทม์ไลน์’ เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเด็ก เข็มแรก 1 ก.พ. เข็มสอง 26 ก.พ.
- ‘ดร.เจษฎา’ เคลียร์ชัด สายพันธุ์ย่อย BA.2 ทำไมเรียก ‘โอไมครอนล่องหน’