COVID-19

ถอดรหัสพันธุกรรม โอไมครอน ‘BA.2’ กลายพันธ์จากสายพันธุ์เดิม ‘อู๋ฮั่น’ มากสุด

ศูนย์จีโนม เผยผลถอดรหัสพันธุกรรม โอไมครอน พบสายพันธุ์ย่อย BA.2 กลายพันธุ์ต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิม “อู๋ฮั่น” มากสุดถึง 70-80 ตำแหน่ง พบการแพร่กระจายมากขึ้น

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการถอดรหัสพันธุกรรม โอไมครอน สายพันธุ์หลัก BA.1 และสายพันธุ์ย่อย BA.2 และ BA.3 ในประเทศไทย กับการกลายพันธุ์จากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น ดังนี้

รหัสพันธุกรรม โอไมครอน

โอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 และสายพันธุ์ย่อย BA.2 และ BA.3 ในประเทศไทย

นอกจากโอไมครอนจะมีสายพันธุ์หลักเป็น B.1.1.529 หรือ BA.1 แล้ว ยังเริ่มมีการกลายพันธุ์ไปอีก 2 สายพันธุ์ย่อยคือ BA.2 และ BA.3

โอไมครอนสายพันธุ์หลัก  BA.1 ถูกถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งจีโนมจากตัวอย่างผู้ติดเชื้อทั่วโลกทั้งสิ้น 514,417 ราย(8%) พบในประเทศไทย 561 ราย (23%)

กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น ประมาณ 60-70 ตำแหน่ง

โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ถูกนำมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม จากตัวอย่างผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกแล้วทั้งสิ้น 10,811 ราย (<0.5%) พบในประเทศไทย 2 ราย(1%)

กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น ประมาณ 70-80 ตำแหน่ง

จีโนม 1

ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีตรวจพบ BA.2 จำนวน 1 ตัวอย่าง ด้วยเทคโนโลยี Mass array genotyping ซึ่งกำลังยืนยันผลด้วยเทคนิค Long read, whole genome sequencing คาดว่าจะแล้วเสร็จในอาทิตย์นี้

โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.3 ถูกนำมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างจากทั่วโลกประมาณ 86 ราย(0.5%) ยังไม่พบในประเทศไทย (not detected)

กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น ประมาณ 55-65 ตำแหน่ง

การคัดกรองทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นเพื่อแยกสายพันธุ์ เดลตา และ โอไมครอน ออกจากกัน มักจะตรวจโดยวิธี RT-PCR 3 ตำแหน่งบน 3 ยีน

โดยเดลตา จะถูกตรวจด้วย RT-PCR ได้ครบทั้ง 3 ยีน ส่วนโอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 ตรวจด้วยชุดตรวจ RT-PCR ได้เพียง 2 ใน 3 ยีน เนื่องจากตรวจไม่พบ S ยีน หรือมี S target failure (SGTF) เนื่องจากมีการกลายพันธุ์เกิดการขาดหายไปของกรดอะมิโนตำแหน่งที่ 69-70 (del 69-70) บนโปรตีนหนามจนตัวตรวจจับ (PCR primers) จับยีน S ไม่ได้

จีโนม1 1

BA.2 บางครั้งถูกเรียกว่า สายพันธุ์ล่องหน (Stealth Variant)” เพราะสามารถตรวจ RT-PCR ได้ครบทั้งสามยีน ทำให้แยกไม่ออกระหว่าง เดลตา กับ BA.2 เนื่องจากสามารถตรวจยีน S ของ BA.2 ด้วยชุดตรวจ RT-PCR ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปได้

สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) ประกาศให้ BA.2 เป็น สายพันธุ์ที่ต้องสอบสวน (Variant Under Investigation: VUI) เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565

ส่วนที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ เนื่องจากใช้เทคโนโลยี จีโนไทป จึงไม่ประสบปัญหา S target failure (SGTF) สามารถพัฒนาให้ชุดตรวจตรวจจับทั้ง BA.1, BA.2, และ BA.3 และ เดลตา อัลฟา เบตา แกมมา ไปพร้อมกันได้ในหลอดเดียว (single tube reaction) ภายใน 24-48 ชั่วโมง ด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม

โอไมครอน 4

BA.2 กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น มากที่สุดประมาณ 70-80 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนทางคลินิกว่ามีอาการรุนแรงกว่าโอมิครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 หรือไม่ แต่คาดคะเนจากข้อมูลทางระบาดวิทยาว่าอาจแพร่ติดต่อได้เร็วกว่าโอไมครอน BA.1 อยู่บ้าง

BA.2 เคยได้รับความสนใจจากนักวิจัยทั่วโลกชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะหมดความสนใจไป เพราะพบการระบาดในวงจำกัด https://www.facebook.com/CMGrama/posts/4586461878128223

แต่ปัจจุบันกลับพบว่า มีการระบาดแพร่กระจายมากขึ้น โดยนักวิจัยสามารถถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างจากทั่วโลกได้แล้วทั้งสิ้นถึง 10,811 ราย

ส่วน BA.3 ทั่วโลกสามารถถอดรหัสทั้งจีโนมมาได้เพียง 86 ตัวอย่าง กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม อู๋ฮั่น น้อยที่สุดประมาณ 55-65 ตำแหน่ง ไม่มีข้อมูลทางคลินิกมากนัก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo