นายกฯ ห่วงคลัสเตอร์นักท่องเที่ยวกลางคืน สถานบันเทิง แพร่โอไมครอน หารือผ่อนคลายมาตรการบางพื้นที่ ย้ำรัฐบาลจะหาทางออกให้ดีที่สุด ยึดหลักประชาชนต้องปลอดภัย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (20 มกราคม 2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ชุดใหญ่ในวันนี้ เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศมีแนวทรงตัว
นอกจากนี้จะมีการหารือผ่อนคลายมาตรการบางพื้นที่ บางกิจการกิจกรรม และมาตรการเข้าออกประเทศ Test & Go ของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีห่วงคลัสเตอร์หลังปีใหม่ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ที่กรมสอบสวนโรคลงพื้นที่ตรวจสอบพบไม่ผ่านการประเมิน และเปิดเกินเวลากฎหมายที่กำหนด จนทำให้พบกลุ่มคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโควิดโอไมครอนจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นข้อมูลนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่เช้าวันนี้
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำนักท่องเที่ยวยามราตรี และผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่าง ๆ ปฏิบัติตามมาตรการกำหนดไว้ หากอยากให้การท่องเที่ยวกลับมาทุกคนต้องร่วมมือ ร่วมใจกัน หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเข้าไปจับกุมและดำเนินการอยู่แล้ว
ขณะที่รัฐบาลพยายามหามาตรการที่มีทางออกที่ดีที่สุด ขอให้ทุกคนอดทน เพราะทุกมาตรการที่ออกมาเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
สำหรับยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ รวม 8,129 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 7,915 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 214 ราย ผู้ป่วยสะสม 1 29,627 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 6,978 ราย หายป่วยสะสม 79,847 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 82,734 ราย เสียชีวิต 19 ราย
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมอยู่ทื่ 111,707,709 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 51,921,457 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 47,882,516 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 11,199,753 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 703,983 โดส
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี จะมาถึงไทยในวันที่ 26 ม.ค.นี้ จำนวน 3 ล้านโดส จาก 10 ล้านโดสที่สั่งจองไว้ในเบื้องต้น และเริ่มฉีด 31 ม.ค. ที่โรงพยาบาลเด็กก่อนเป็นแห่งแรก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ร้านอาหาร-สถานบันเทิง’ คลัสเตอร์อันดับ 1 แพร่โควิดหลังปีใหม่!
- ‘หมอมนูญ’ มั่นใจ อาการ ‘ลองโควิด’ จากโอไมครอน น้อยกว่าเดลตาแน่นอน
- วันนี้ยังหนัก! ยอดติดเชื้อโควิดพุ่งอีก 8,129 ราย เสียชีวิต 19 ราย
