“ดร.อนันต์” ยกเคสผู้ติดเชื้อโอไมครอน พบอาการต่างกัน สะท้อนความหลากหลาย การกลายพันธุ์ในตัวเอง
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ชวนศึกษาเคสน่าสนใจของโอไมครอนในประเทศไทย โดยระบุว่า
เมื่อช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา J และ K ได้เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะแห่งหนึ่งในภาคใต้ของไทย กลับมาทั้งคู่มีอาการน่าสงสัยเลยไปซื้อ ATK มาตรวจพบผลเป็นบวกทั้งคู่ ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันตลอดจึงเป็นไปได้สูงว่าจะติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกัน
ในวันเดียวกัน ทั้งคู่ได้ส่งตัวอย่างน้ำลายมาให้ผมเพาะเชื้อ และได้ทำการตรวจ ATK ทุกวัน เพื่อดูระดับของไวรัสในร่างกายตั้งแต่วันแรกที่เริ่มตรวจพบเชื้อ K มีอาการไม่มากในขณะที่ J มีอาการชัดเจนกว่า แต่ไม่หนักมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งคู่ home isolation อยู่ด้วยกัน
เมื่อนำตัวอย่างน้ำลายมาเพาะเชื้อ แล้วพบสิ่งที่น่าสนใจมากครับ ตัวอย่างไวรัสจาก J สามารถติดเชื้อเข้าเซลล์ได้อย่างรวดเร็ว มีการหลอมรวมกันของเซลล์เหมือนที่พบได้ในเซลล์ที่ติดไวรัสเดลตา
ขณะที่ไวรัสจาก K ติดเชื้อได้ไม่ดี เซลล์เปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ชัด และใช้เวลาหลายวัน กว่าเชื้อจะเพิ่มจำนวนจนตรวจสอบได้ ทำให้คาดว่า J คงติดเดลตามา และ K อาจติดโอไมครอน
แต่เมื่อนำ RNA ของไวรัสมาตรวจสอบเพิ่มเติม โดยใช้ชุดไพรเมอร์ที่ออกแบบให้แยกไวรัส 2 สายพันธุ์ได้ พบว่า ไวรัสของทั้ง 2 คน เป็นโอไมครอนทั้งคู่
แต่ โอไมครอนของทั้ง 2 คน มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ของ K เหมือนกับที่หลายที่รายงานว่า ติดเซลล์ได้ช้าและไม่ทำให้เซลล์เกิดการรวมตัวกัน ในขณะที่ J เป็น โอไมครอนที่มีลักษณะเหมือนที่พบในไวรัสเดลตา
ผลจากการตรวจ ATK เป็นประจำทุกวันของทั้ง 2 คน เหมือนจะสอดคล้อง คือ ปริมาณไวรัสในตัว K ลดลงไวมากภายใน 3 วัน ขณะที่ปริมาณไวรัสใน J เป็นแถบสีเข้มมากเป็นเวลานานถึง 8 วัน ก่อนเริ่มลดลงอย่างเห็นชัดในวันที่ 9 ซึ่งบ่งชี้ว่าปริมาณไวรัสใน J มีสูงและอยู่ในร่างกายนานกว่า K ชัดเจน
ที่น่าสนใจคือ K ได้รับวัคซีน AZ มา 2 เข็ม ในขณะที่ J ได้วัคซีน Pz เข็มที่ 3 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการศึกษาข้อมูลเชิงลึก โดยการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์ ซึ่งเชื่อว่ามีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน ทีมวิจัยคงรวบรวมผลวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในเร็วๆนี้
ไวรัสโอไมครอน ดูเหมือนจะมีความหลากหลายในตัวเอง ข้อมูลส่วนใหญ่ที่มีตอนนี้มาจากสายพันธุ์หลักที่ระบาดเป็นวงกว้าง
ขณะที่โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย อาจมีความแตกต่างกันทางไวรัสวิทยาอย่างชัดเจน ในประเทศไทยก็สามารถตรวจพบโอไมครอนที่แตกต่างกันได้ เราต้องทำความรู้จักไวรัสตัวนี้ให้มากขึ้นกว่านี้มาก ก่อนจะมีข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โชคดีจริงๆ!! ‘ดร.อนันต์’ ย้ำชัด ไวรัส ASFV ไม่ติดคน ไม่ก่อให้เกิดโรคในคน
- ‘ดร.อนันต์’ แจงแล้ว! ผลทดสอบ ATK 11 ยี่ห้อในไทย จับโอไมครอนได้ไหม?
- ‘ดร.อนันต์’ จับตา โอไมครอนรุ่นน้อง BA.2 ส่อแวววิ่งไวแซงรุ่นพี่ BA.1