COVID-19

‘หมอนิธิพัฒน์’ ติง อย่าตีปีกรีบผ่อนคลาย ตัวเลขผู้ป่วยหนัก-เสียชีวิตเริ่มพุ่ง

“หมอนิธิพัฒน์” เตือน อย่าตีปีกรีบผ่อนคลายมาตรการ ชี้ยอดผู้ป่วยทรงตัว แต่ยอดผู้ป่วยหนัก-เสียชีวิต เริ่มเพิ่มสูงขึ้น การระบาดลามบุคลากรการแพทย์ ชุมชน

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล เตือนยอดผู้ป่วยหนัก-เสียชีวิต เริ่มสูงขึ้น อย่ารีบผ่อนคลาย โดยระบุว่า

อย่าตีปีกรีบผ่อนคลาย

อย่าเพิ่งด่วนตีปีกกระดี๊กระด๊าเกินไป ด้วยการเร่งรีบว่า พร้อมอยากผ่อนคลายโน่นนี่นั่นจนดูเกินงาม แม้ตัวเลขยอดรวมผู้ป่วยใหม่ของวันนี้จะยังทรงที่ระดับหนึ่งหมื่นกว่า (ยืนยันว่าต้องนับ ATK ด้วย)

แต่อย่างที่ทักเมื่อวานว่าตัวเลขผู้ป่วยหนักกำลังเพิ่มขึ้นเกิน 500 วันนี้ไปต่อเป็นวันที่สามแล้ว และเริ่มเห็นการเสียชีวิตในการระบาดระลอกห้ามาเรื่อย ๆ เช่นกัน

แม้จะเป็นจำนวนไม่มากและเป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางก็ตาม แต่ก็มีผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบเสียชีวิตด้วยเช่นกัน อีกทั้งการควบคุมแหล่งแพร่เชื้อในสถานที่เสี่ยงก็ยังไม่เห็นว่าทำอะไรได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา

นอกจากนี้การที่ระลอกนี้มีลูกเด็กเล็กแดงป่วยเป็นโควิดกันพอควร แม้จะไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง แต่ผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการสู่เยาวชนอนาคตของชาติยังไม่มีใครบอกได้

 

ปัญหาสำคัญอีกอันหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคือ การระบาดยังไม่เริ่มสงบ และการระบาดลุกลามเข้ามาในบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรวัยทำงานสาขาวิชาชีพอื่น

111 1

 

ที่โรงเรียนแพทย์ริมน้ำ ยอดตรวจหาเชื้อรายวันขึ้นไปจุดขีดความสามารถสูงสุดที่ทำได้ในแต่ละวันแล้ว โดยเป็นการตรวจในบุคลากรของที่นี่เองกว่า 50% และสำหรับคนนอกนั้นเกือบครึ่งเป็นกลุ่มไม่มีอาการแต่ต้องมาเข้ารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาล

ความชุกของผลการตรวจเป็นบวกก็ยังอยู่ระหว่าง 10-15% นั่นหมายความว่าโรคได้ระบาดแพร่เป็นวงกว้างเข้าไปในชุมชน จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อกันมากตามไปด้วย และส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากนอกที่ทำงาน ซึ่งทำให้บุคลากรที่พร้อมทำงานลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ

ขณะเดียวกันก็ยังต้องระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อในที่ทำงานจากเพื่อนร่วมงาน และจากผู้มาใช้บริการด้วยเช่นกัน

ที่ยังวางใจกันไม่ได้คือ ถ้าโอไมครอนระบาดในวงกว้างแล้ว จะมีการกลายพันธุ์อื่นของเชื้อนี้สอดแทรกเข้ามาอีกหรือไม่ ก่อนที่โควิดจะกลายเป็นโรคไข้หวัดตามฤดูกาลอีกโรคหนึ่งดังที่หลายคนตั้งความหวัง

22 3

อย่าลืมว่ากว่าจะมาเป็นโอไมครอนในทุกวันนี้ ที่กลายพันธุ์ไปจนหลบรอดวัคซีนได้มากขึ้น และติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้นนั้น ต้องผ่านการสั่งสมปรับตัวต่อเนื่องยาวนาน

หากรีบปล่อยให้การระบาดลุกลามต่อไปเพราะเห็นว่าเชื้อไม่รุนแรงต่อคนที่แข็งแรงดี ถ้าเกิดการปรับตัวของเชื้อหนีนักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ ไปได้อีกรอบ คงต้องได้วิ่งวุ่นไล่ตะครุบตัวมาศึกษาหาทางป้องกัน ด้วยการปรับแก้ไขวัคซีนรุ่นใหม่กันไม่หยุดหย่อนต่อไปไม่รู้จบอีกเลยเป็นแน่แท้

สนใจลองหาอ่านเรื่องราวของโอไมครอนตัวเปลี่ยนหรือตัวปิดเกมได้จาก
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/epdf/10.1002/jmv.27588

สามวันต่อจากนี้ขอหนีร้อนในเมืองหลวงไปพึ่งเย็นที่อีสานใต้ เพื่อขับรถไปเยี่ยมศิษย์ทีมโควิดไล่จากบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ว่าแต่ดูยอดรายวันวันนี้ ทั้งสี่เจ้าติดท็อปเท็นของภาคตะวันออกเฉียง
เหนือหมดเลย (อันดับ 4, 7, 6 และ 1 ตามลำดับ) จะได้ไปพึ่งเย็นเขาจริงรึ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo