กรมควบคุมโรค ยืนยันวัคซีนทุกสูตร มีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนัก-เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ ย้ำฉัดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มภูมิช่วยป้องกันโอไมครอน
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการติดตามประเมินผลประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวัดผลในพื้นที่จริง พบว่า วัคซีนทุกสูตร มีประสิทธิภาพดีมาก ในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิดทุกสายพันธุ์ได้ถึง 90-100% ทั้งการฉีดสูตรปกติ สูตรไขว้ หรือบูสเตอร์โดส
นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดีพอสมควร แต่สิ่งที่สำคัญคือ ระยะเวลาในการฉีดวัคซีน หากผ่านพ้น 3 เดือนไปแล้วประสิทธิภาพจะค่อย ๆ ลดลง ดังนั้น การได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดสจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้ เห็นได้จากข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 ทั้งสูตรแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และไฟเซอร์ (Pfizer) มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอนได้มากถึง 80-90% จากการระบาดที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ขณะที่นโยบายการบริหารจัดการวัคซีนเข็มกระตุ้นมีดังนี้
1. ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า ครบในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564 ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า
2.ผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็ม ในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564 ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน ไฟเซอร์
3. ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ภายในเดือนมกราคม 2565 ส่วนผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กระตุ้นได้ 1 เข็ม สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์
ล่าสุด ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปได้แล้วกว่า 108 ล้านโดส ซึ่งในเดือนมกราคมนี้ กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 9 ล้านโดส ขณะนี้ผ่านไปได้ครึ่งทางสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอเฉลิมชัย’ ชี้ชัดฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มแรก ได้ผลดีไม่แพ้ฉีดด้วย mRNA เป็นเข็มที่ 3
- ‘หมอยง’ ยกผลวิจัยยืนยัน ฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ภูมิต้านทานพุ่ง 200 เท่า
- ‘ดร.สันต์’ บอกข่าวร้าย คนไม่ฉีดวัคซีน อย่าประมาทโอไมครอน อัตราเสียชีวิตยังสูง