“โฆษกรัฐบาล” เผย “บิ๊กตู่” ห่วงการแพร่ระบาด “โอไมครอน” สั่งเร่งตรวจเชื้อเชิงรุก คัดแยกผู้ป่วย ลั่นขอให้มั่นใจรัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งให้กลับไปอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ออกแบบระบบรองรับไว้แล้ว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดอย่างใกล้ชิด กำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะด้านสาธารณสุขรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก “โอไมครอน” ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้มีการตรวจเชื้อแบบเชิงรุก เพื่อเร่งแยกผู้ป่วยออกจากประชากรทั่วไปให้ได้มากที่สุด โดยล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) จัดตรวจโควิดเชิงรุกที่ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. (บริเวณลานจอดรถชั้น 1 อาคารบี) เพื่อสนับสนุนกรุงเทพมหานครและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ใช้ชุดตรวจ ATK รู้ผลใน 30 นาที โดยหากปรากฏว่าผลตรวจเป็นบวกหรือติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หรือในระบบชุมชน (Community Isolation)
อย่างไรก็ตาม หากอาการแย่ลงก็จะส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลทันที โดยตั้งเป้าตรวจวันละ 1,000 ราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-21 มกราคม 2565 นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ให้ติดตามควบคุมราคาการจำหน่าย ATK อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับวางแนวทางป้องกันไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชนที่อยู่ในช่วงยากลำบาก
นายธนกร กล่าวอีกว่า ในการเตรียมความพร้อมระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน (Home Isolation: HI) เพื่อรองรับกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแพร่ระบาดที่รวดเร็ว อาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นกระจายไปในหลายพื้นที่ได้ สปสช. ได้พัฒนาระบบการติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทาง Line สปสช. @nhso กรณีเข้ารับบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน
ทั้งนี้ แนะนำประชาชนที่ตรวจ ATK ด้วยตัวเองแล้วขึ้น 2 ขีด สิ่งที่ต้องทำคือ โทรแจ้งสายด่วน 1330 กด 14 หรือแอดไลน์ @nhso (เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 6 ชั่วโมง) กรณีที่โทรไม่ติด หรือสายไม่ว่าง ไม่ต้องกังวล เพราะระบบได้บันทึกข้อมูลไว้แล้ว และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อรับข้อมูลเข้าระบบ ส่วนต่างจังหวัดสามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลส่วนตำบล
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านจะได้รับการดูแลติดตามอาการ บริการส่งยา ส่งอาหาร ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ที่วัดไข้แบบดิจิทัล เครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นต้น ในกรณีที่จำเป็นอาจได้รับการเอกซเรย์ปอด การตรวจ RT-PCR จนหายป่วย หรือส่งต่อไปรักษาต่อในโรงพยาบาลกรณีอาการเปลี่ยนแปลง
“ขอย้ำว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจการแพร่ระบาดของโอมิครอน มีการประเมินและศึกษาข้อมูลกรณีต่างประเทศเพื่อนำมาวางแผนการรับมือต่อสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งพบว่าแม้โอมิครอนจะแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว แต่อาการไม่ค่อยรุนแรงมากนัก รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งระบบการรับแจ้งเหตุ (Call Center) การคัดกรอง/คัดแยกผู้ป่วย รักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อม CI/HI รวมทั้งโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ไว้แล้ว” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งให้กลับไปอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ออกแบบระบบรองรับไว้แล้ว และขอความร่วมมือผู้ขาย ATK อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน ขอให้ทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม ภาครัฐมีกลไกติดตามการค้าขายในทุกช่องทางหากพบมีการเอารัดเอาเปรียบ กักตุนสินค้า ค้าขายไม่เป็นธรรมจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดวันนี้ 10 ม.ค.ทั่วโลกติดเชื้อ 307.86 ล้านราย ‘ออสเตรเลีย’ ชาติล่าสุด ยอดสะสมทะลุ 1 ล้านคน
- บุรีรัมย์ระทึก!! ติดโควิดรายใหม่พุ่ง 171 ราย ผู้ป่วยเตียงสีเหลืองเต็มแล้ว
- ‘หมอยง’ เป็นห่วง เด็กติดเชื้อโอไมครอน อาการน้อย แต่จะแพร่เชื้อต่ออีกเพียบ