“หมอเฉลิมชัย” เผยคลัสเตอร์โอไมครอน หมู่เกาะฟาโรห์ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 3 เข็ม ยังติดเชื้อถึง 63.6% แต่ป่วยไม่รุนแรง แนะวิธีป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย งดงานเลี้ยงสังสรรค์
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย กรณีไวรัสโอไมครอน ทำให้ผู้ฉีดไฟเซอร์ ครบ 3 เข็มและมีพฤติกรรมเสี่ยง ติดโควิดสูงถึง 63.6% แต่อาการไม่แรง (กรณีคลัสเตอร์หมู่เกาะฟาโรห์) โดยระบุว่า
เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศได้ประมาณหนึ่งเดือน ( 26 พฤศจิกายน 2564 ) ทำให้เรามีข้อมูลและสถิติของไวรัสชนิดนี้ ที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์มากนัก
การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จะทำให้มนุษย์เรา สามารถเข้าใจธรรมชาติของไวรัสโอไมครอน มากขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือการระบาดของไวรัสได้ดียิ่งขึ้น
เป็นที่ทราบในเบื้องต้นว่า โอไมครอน มีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วและกว้างขวาง แพร่ระบาดไปแล้วกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มีการดื้อต่อวัคซีน แต่อาการไม่ค่อยรุนแรงมากนัก
การเก็บตัวเลขในกลุ่มคลัสเตอร์ที่ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก
วันนี้มีรายงานการศึกษาที่หมู่เกาะฟาโรห์ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก และเป็นเขตที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในลำดับต้นของโลก
รวมทั้งมีการตรวจการติดเชื้อที่สูงมากคือตรวจถึง 12 เท่าของจำนวนประชากร หมู่เกาะนี้มีประชากรประมาณ 50,000 คน คือมีการตรวจประมาณ 600,000 เทสต์
การระบาดเป็นกลุ่มก้อนครั้งนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่จัดงานสังสรรค์เป็นส่วนตัวจำนวน 33 ราย หลังจากนั้นไม่กี่วัน บางรายมีอาการคล้ายโควิด จึงได้ทำการตรวจพีซีอาร์ พบผลเป็นบวกหรือติดโควิด
ที่สำคัญคือ ในคลัสเตอร์ดังกล่าว ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ครบ 3 เข็มแล้ว เป็นเวลาประมาณ 2 เดือนเศษ ซึ่งจะมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงเพียงพอ
อัตราของผู้ติดเชื้อยังคงสูงมากถึง 63.6% คือ 21 ราย จาก 33 ราย และในจำนวน 21 รายนี้ ได้ตรวจคอนเฟิร์มแล้วว่าเป็น โอไมครอน ถึง 17 ราย
ผู้ติดเชื้อมีอาการหมดทุกราย (100%) ในระดับน้อยถึงปานกลาง ไม่มีรายใดที่ต้องนอนโรงพยาบาล อาการประกอบด้วย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย และมีไข้ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการสูญเสียการได้กลิ่นและรับรส
พบว่ามีระยะฟักตัวค่อนข้างสั้นคือ 3.24 วัน (2-6 วัน) และมีอาการประมาณ 1-9 วัน
จึงทำให้เป็นข้อมูลสำคัญ ที่ช่วยยืนยันว่า โอไมครอน ดื้อต่อวัคซีนหรือทำให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
และในคลัสเตอร์ที่หมู่เกาะฟาโรห์ ยิ่งทำให้เกิดความเป็นห่วง เพราะทุกคนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 3 เข็ม ก็ยังติดเชื้อถึง 63.6% เพียงแต่วัคซีนช่วยทำให้ไม่มีผู้ใดป่วยจนอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล
กล่าวโดยสรุป
การป้องกันการติด โอไมครอน ควรดำเนินการดังนี้
1. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้าน หรือใกล้ชิดกับผู้คน
2. งดการเลี้ยงสังสรรค์ที่เป็นกลุ่มก้อน โดยเฉพาะที่อยู่ในอาคาร และมีระบบระบายอากาศไม่ดี
3. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิด และมีการพูดคุย หัวเราะเสียงดัง หรือร้องเพลง จะทำให้ลดโอกาสการติดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนกรณีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 จะทำให้ติดเชื้อลดลงได้บ้าง แต่ที่สำคัญคือจะลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงถ้าบังเอิญติดเชื้อขึ้นมา
ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันตนเองไม่ให้ติดโควิดจากไวรัสสายพันธุ์ใดก็ตาม รวมทั้ง โอไมครอนนี้ด้วยก็คือ การไม่ให้ไวรัสเข้าเยื่อบุจมูก เยื่อบุช่องปาก โดยการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ และมีการส่งเสียงดัง ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสติดต่อมายังเราได้
ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน ก็ควรเร่งฉีดเข็ม 3 เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคลง ในกรณีสุดวิสัยติดเชื้อขึ้นมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาด 2-3 เดือน ติดเชื้อโอไมครอนวันละหมื่น ระบบสุขภาพไทยรับได้เต็มที่ 1.6 แสนราย
- ‘หมอเฉลิมชัย’ หนุนยกเลิก Test and Go ชะลอโอไมครอนระบาด
- คุมโอไมครอน ด้วยเดลตา ‘หมอเฉลิมชัย’ แนะ ต้องกดตัวเลขติดเชื้อ-เสียชีวิตต่ำที่สุด