COVID-19

คุมโอไมครอน ด้วยเดลตา ‘หมอเฉลิมชัย’ แนะ ต้องกดตัวเลขติดเชื้อ-เสียชีวิตต่ำที่สุด

“หมอเฉลิมชัย” เชื่อ โอไมครอนแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก แนะเร่งคุมโอไมครอนด้วยเดลตา โดยการกดให้มีการติดเชื้อและเสียชีวิตให้ต่ำที่สุด

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun กรณีสายพันธุ์โอไมครอนระบาดทั่วโลก จากแพร่เร็วกว่าเดลตา 2-5 เท่า แนะคุมโอไมครอนด้วยไวรัสเดลต้า โดยระบุว่า

คุมโอไมครอน

19 ธันวาคม 2564 ติดเชื้อเพิ่ม 2899 ราย ต่ำกว่า 5000 รายต่อวัน เป็นวันที่ 21 ต่อเนื่องกัน และเสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ต่ำกว่าวันละ 50 ราย เป็นวันที่ 23 ต่อเนื่องกัน

จากสถานการณ์ไวรัสโอไมครอนระบาดทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีความสามารถในการแพร่ระบาดที่เร็วกว่าสายพันธุ์หลักในปัจจุบันคือเดลตามากถึง 2-5 เท่า

ทำให้เชื่อได้ว่า ไวรัสโอไมครอน จะแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลกในที่สุด และประเทศไทยก็คงจะหลีกเลี่ยงการมีไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาดในประเทศได้ยาก

เมื่อสถานการณ์ทุกประเทศทั่วโลกเหมือนกัน ว่าจะต้องพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ตัวอย่างในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ ทำลายสถิติวันละเกือบ 100,000 รายแล้วนั้น

ทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย จึงควรเร่งคุมการระบาดด้วยไวรัสเดลตา โดยการกดให้มีการติดเชื้อและเสียชีวิตให้ต่ำที่สุด

หมอเฉลิมชัย 1

เพื่อให้มีจำนวนเตียงว่างให้มากที่สุด ทั้งโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และการแยกกักตัวที่บ้าน เพื่อรับมือกับไวรัสโอไมครอนที่จะเข้ามาในเวลาอันใกล้นี้

จากการดูสถิติของประเทศไทย พบว่าขณะนี้เราได้อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างดี กล่าวคือมีผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และผู้รักษาตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

โดยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,899 ราย น้อยกว่า 5,000 ราย เป็นวันที่ 21 รักษาตัวอยู่ในระบบ 41,793 ราย ต่ำกว่า 50,000 ราย เป็นวันที่ 7

ผู้ป่วยอาการหนัก 928 ราย ต่ำกว่า 1,000 ราย เป็นวันที่ 3 ผู้ใช้เครื่องช่วยหายใจ 249 ราย ต่ำกว่า 250 ราย เป็นวันที่ 2 เสียชีวิต 22 ราย ต่ำกว่า 50 ราย เป็นวันที่ 23

วันนี้ 19 ธันวาคม 2564 ติดเชื้อเพิ่ม 2,899 ราย ติดในระบบ 2,802 ราย ติดจากตรวจเชิงรุก 22 ราย ติดในสถานกักตัว 54 ราย ติดในเรือนจำ 21 ราย

สะสมระลอกที่สาม 2,162,665 ราย สะสมทั้งหมด 2,191,528 ราย หายป่วย 4,389 ราย สะสม 2,128,358 ราย
รักษาตัวอยู่ 41,793 ราย

โรงพยาบาลหลัก 20,466 ราย โรงพยาบาลสนาม 18,953 ราย แยกกักที่บ้าน 1,511 ราย อาการหนัก 928 ราย
ใช้เครื่องช่วยหายใจ 249 ราย เสียชีวิต 22 ราย

สะสมระลอกที่สาม 21,283 ราย สะสมทั้งหมด 21,377 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย 946 ราย สะสม 367,145 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo