สธ. ย้ำชัด ไทยพบนักเดินทางติดเชื้อโอมิครอน รายเดียว ส่วนผู้สัมผัสทั้งหมด โดยเฉพาะพนักงานโรงแรม ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ แต่ยังติดตามอาการต่อ ตรวจซ้ำ ยันโอมิครอนแพร่เร็ว อาการไม่รุนแรง
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังโดยสุ่มตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอน ในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีผล RT-PCR เป็นบวกการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน และผู้ป่วยอาการหนักหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้ยืนยันว่า ขณะนี้ตรวจพบการติดเชื้อโอมิครอนจากผู้เดินทางเพียงรายเดียว คือ ชายชาวอเมริกันอายุ 35 ปี เดินทางมาจากสเปน อยู่ระหว่างการดูแลในสถานพยาบาล แต่ไม่มีอาการ โดยจะติดตามอาการทุกวันจนครบการกักตัว 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงประเทศไทยคือวันที่ 30 พฤศจิกายน
สำหรับผู้สัมผัสชายอเมริกันรายนี้ บนเครื่องบินไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารรายอื่นนั่งติดกับผู้ติดเชื้อ ส่วนพนักงานสนามบินมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด 2 ราย และผลตรวจเป็นลบ
ส่วนโรงแรมที่เข้าพักมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 17 ราย ตรวจหาเชื้อเป็นลบ 16 ราย ส่วนอีกรายเป็นชายไทยอายุ 44 ปี พนักงานเสิร์ฟอาหารในโรงแรม มีประวัติวันที่ 1 ธันวาคม นำมาอาหารไปเสิร์ฟให้ชายอเมริกัน และนำเอกสารไปให้เซ็น พบเจอกันเพียง 5-10 นาที มีการสวมหน้ากากตลอดเวลาทั้ง 2 ฝ่าย ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานเสิร์ฟรายนี้ได้เดินทางไป จ.อุบลราชธานี ทีมสอบสวนโรคที่ จ.อุบลราชธานีจึงได้ติดตามมาตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร โดยวันที่ 6 ธันวาคม ผลสงสัยว่าจะติดเชื้อ (Inconclusive) เนื่องจากต้องตรวจหาเชื้อถึง 37 รอบ ทั้ง 2 ยีน แสดงว่าเชื้อมีปริมาณน้อยมาก อาจจะเป็นซากเชื้อ
จากการที่รายนี้ไม่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน จึงมีการตรวจซ้ำวันนี้ ล่าสุดให้ผลเป็นลบ สรุปว่าไม่มีการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จะยังติดตามผู้สัมผัสทั้ง 19 ราย และตรวจซ้ำอีกครั้งก่อนครบการเฝ้าระวัง 14 วัน
เมื่อมีการสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิดรายนี้ พบว่า มีผู้สัมผัสในครอบครัว 5 คน ที่เดินทางร่วมกันด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อผลตรวจครั้งแรกสงสัยว่าจะติดเชื้อ จึงมีการติดตามต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคุมไว้สังเกตอาการทั้งหมด
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า สายพันธุ์โอมิครอนถือว่าแพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา 2-5 เท่า ส่วนใหญ่อาการเล็กน้อย อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้เร็วขึ้น อาจเป็นตัวช่วยให้การเปิดประเทศประสบความสำเร็จมากขึ้น และเข้าสู่นิวนอร์มัลเร็วขึ้น
แต่ยังต้องดำเนินมาตรการ VUCA ควบคู่ด้วย คือ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ซึ่งวัคซีนทุกวันนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ป้องกันอาการป่วยหนักและเสียชีวิต เข้มมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา โดยเฉพาะคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อป้องกันการนำเชื้อกลับเข้าประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอมิครอน ระบาดลาม 54 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะผู้เดินทางเข้าประเทศตรวจพบ 35 ประเทศ
- ‘อนุทิน’ ลั่น จะช้าหรือเร็ว ต้องพบโอมิครอนทุกประเทศ ยันยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศอื่นเพิ่ม
- ‘หมออนุตตร’ มองอนาคต ‘โอไมครอน’ ระบาดไทย ฝากความหวังวัคซีน-ยา