“สธ.-ศบค.” อัปเดตข้อมูลไวรัสโควิด กลายพันธุ์ “โอไมครอน” ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า ผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยคล้าย “ไข้หวัด” และยังไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้ มาตรการป้องกัน “ฉีดวัคซีน” ให้ครอบคลุมมากที่สุด
วันนี้ (6 ธ.ค.) นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขออัปเดตเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน ว่า เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว 2-5 เท่า ส่วนใหญ่อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือไม่มีอาการ หรืออาการน้อย แยกยากจากสายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งเดลตา อัลฟา และแกมมา
ลักษณะการติดเชื้อแยกยาก แต่ที่มีรายงานจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และไม่มีรายงานการเสียชีวิต
นพ.โอภาส กล่าวว่า สิ่งสำคัญขณะนี้ คือ มาตรการที่องค์การอนามัยโลก และซีดีซีสหรัฐ แนะนำคือ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยประเทศไทยขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 95 ล้านกว่าโดส
โดยเฉพาะคนฉีดเข็ม 1 ในคนไทยครอบคลุมเกิน 75% แล้ว และเข็มที่ 2 เกิน 60 กว่า% ซึ่งขณะนี้กำลังบูสเตอร์โดสเข็ม 3 โดยขอให้รอฟังประกาศกระทรวงสาธารณสุข ว่า ครบ 2 เข็มเดือนไหน และจะให้ฉีดบูสเตอร์โดสเมื่อไร คาดว่าเดือนธันวาคม 2564-มกราคม 2565 จะมีการฉีดบูสเตอร์โดสมากที่สุด
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 โพสต์ข้อความ ระบุว่า “อัปเดต เชื้อโควิดกลายพันธุ์ โอไมครอน แพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา 2-5 เท่า ผู้ติดเชื้อ โอไมครอน ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อยคล้ายโรคไข้หวัด ผู้ติดเชื้อในต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ โอไมครอนเสียชีวิต
มาตรการป้องกัน ฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด ใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่เข้มงวด เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และ VUCA ยกระดับการเฝ้าระวัง ณ ช่องทางเข้าออกประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว
ทำการสุ่มตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยไข้หวัดที่เป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ส่งตัวอย่างเชื้อที่พบ จากผู้เดินทาง หรือรายที่น่าสงสัยไปตรวจหาสายพันธุ์โอไมครอน ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระวัฒน์’ เตือนถ้าโอไมครอนแพร่ทางอากาศ ต้องมียารักษาได้ทันทีทันใด
- ‘ดร.อนันต์’ เผยผู้เชี่ยวชาญอังกฤษ ให้สีแดง ‘โอมิครอน’ หนีภูมิคุ้มกัน ดื้อยา
- เปิดไทม์ไลน์ ‘โอไมครอน’ รายแรกในไทย ไปไหนมาบ้างเช็คเลย!