“อนามัยโพล” เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่ห่วงนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ด้าน “สธ.” เปิด 7 พฤติกรรมเสี่ยงที่ไม่ควรทำ หลังคลายล็อกดื่มแอลกอฮอล์
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย และนพ.เกษม เวชสุทธานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง กรมอนามัย ร่วมกันแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุข เรื่องการเปิดเมืองปลอดภัย คุมเข้ม กินดื่ม ในร้านอาหาร ด้วยมาตรการ COVID Free Setting และ 10 มาตรการเข้ม ลอยกระทงปลอดภัย
นพ.สุวรรณชัย ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการประกาศให้พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ จากการรวมรวบข้อมูลจนถึงวันนี้ หรือ 2 สัปดาห์เศษ พบว่ามีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีการรวมกลุ่มของคน และอาจมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการอยู่ด้วย การอยู่ในสถานที่เป็นระยะเวลานาน และหากอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไปก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น และการพูดคุยสังสรรค์ กินดื่มร่วมกัน
ขณะที่ผลการสำรวจ “กรมอนามัยโพล” ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับการปรับมาตรการให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ โดยประชาชนที่ร่วมตอบ 2,823 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 1-14 พ.ย. 2564) พบว่า
- 56.8% ไม่เห็นด้วย เพราะมีความกังวลว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ รวมถึงไม่มั่นใจในมาตรการป้องกัน และผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่
- 43.2% เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ในพนักงาน-เจ้าของร้าน

ในส่วนของ 3 กิจกรรมเสี่ยงที่ยังพบในร้านอาหารและเครื่องดื่ม (ภาพรวมทั้งประเทศ เฉพาะร้านที่จำหน่ายและให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
- มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการหรือสถานบันเทิง
- มีกิจกรรมงานเบี้ยงสังสรรค์ที่มีการรวมกลุ่มเกินกว่ากฎหมายกำหนด
- มีกิจกรรมเต้นรำ ตะโกนเสียงดัง ของพนักงานหรือผู้รับบริการ
นพ.เกษม กล่าวเสริมว่า จากการสุ่มตรวจประเมินเมื่อวันที่ 10-15 พฤศจิกายน 2564 จากพื้นที่ 3 เขตใน กทม. จำนวน 25 ร้าน พบว่ามาตรการต่าง ๆ ให้ความร่วมมือดี แต่ก็มีการแนะนำให้กินดื่มในเกิน 2 ชั่วโมง ไม่มีกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่มีการรวมกลุ่ม กิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนมาตรการที่ยังทำได้น้อยและอยากเน้นย้ำคือ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล มีลูกค้ามากร้านค้าอาจจะไม่ค่อยเข้มงวดในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ในการสุ่มประเมินมี 3 ร้านในพื้นที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ดื่มกินใกล้ชิด มีการเต้นรำ ตะโกนร้องเพลงร่วมกับนักดนตรี เจ้าหน้าที่จึงมีการเปรียบเทียบปรับในครั้งแรกคือ 6,000 บาท ส่วนการสุ่มตรวจ 105 ร้านในพื้นที่สีฟ้าอีก 3 จังหวัด กระบี่ พังงา ภูเก็ต ส่วนใหญ่ยังปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ได้ดี เนื่องจากยังเป็นช่วงต้นของการเปิด คนมาใช้บริการยังไม่มาก รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็ยังไม่มากเช่นกัน
สำหรับ 7 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำของนักดื่ม มีดังนี้
- ไม่ดื่มร่วมแก้ว ไม่กินร่วมจาน
- ไม่พูดคุยใกล้ชิดกับคนไม่รู้จัก เลี่ยงการสัมผัส เลี่ยงการพบปะสังสรรค์ข้ามกลุ่ม
- ไม่ดื่มจนเมามาย ขอความร่วมมือทั้งผู้มาใช้บริการ และขอให้ร้านสอดส่องด้วย
- ไม่ตะโกน สวมหน้ากากตลอดเวลา ถอดเฉพาะเวลาดื่ม เพื่อลดความเสี่ยง
- ไม่ดื่มเกินเวลา เมื่อกลับถึงที่พักรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ
- หมั่นล้างมือเมื่อใช้ห้องน้ำร่วมกัน
- ไม่ดื่มในร้านที่ไม่ผ่าน COVID Free Setting หรือ SHA+
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศของจังหวัดเป็นสำคัญ พร้อมเน้นย้ำปฏิบัติมาตรการ คำนึงความปลอดภัยตนเอง พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และร้านต้องเข้มงวด กำชับผู้ใช้บริการให้อยู่ในมาตรการที่รัฐกำหนด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดชลบุรีวันนี้! ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 209 ราย เฉพาะคลัสเตอร์ทหารพุ่ง 22 ราย
- 11 ล้านคนยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรก! เปิดชื่อ 10 จังหวัดยังมีการระบาด แต่ฉีดน้อย
- คนกรุงฉีดวัคซีนสะสม 17 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดครบ 100% ก่อนปีใหม่