COVID-19

จับตา!! ‘ศบค.’ จ่อคลายล็อก ให้คนไทยได้ฉลองปีใหม่ รับยังหวั่นคลัสเตอร์ลอยกระทง

“หมออุดม” เผย “ศบค.ชุดใหญ่” จ่อคลายล็อก หวังให้คนไทยได้ฉลองปีใหม่ ย้ำ! เข้มมาตรการป้องกัน เหตุยังหวั่นเกิดคลัสเตอร์ลอยกระทง ซ้ำรอยกฐิน-งานศพ

ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวก่อนการประชุม “ศบค.ชุดใหญ่” ว่า หลังจากเปิดประเทศมาระยะหนึ่งแล้วก็พบว่าเป็นไปด้วยดี บรรยากาศคึกคักดีและเป็นไปตามเป้าหมายผู้ป่วยไม่ได้มากจนเกินไป แต่ที่เป็นกังวลคือหลัง 2 อาทิตย์ไปแล้ว ตอนนี้ผู้ติดเชื้อประมาณ 6,000-7,000 คนต่อวัน แต่ที่น่ากังวลคือ “กรุงเทพฯ” ที่ติดวันละ 700-800 คน ไม่ยอมลงมาเป็นสัปดาห์แล้ว ทั้งที่ควรจะลงไปเรื่อย ๆ

คลายล็อก

หวั่นกราฟกระดกขึ้น

ดังนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ส่อว่าอาจจะเริ่มมีกราฟกระดกขึ้นไปได้ อยากฝากเตือนประชาชนทุกคนและสถานประกอบการเป็นสำคัญว่าจะต้องช่วยกันดูแลตรงนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่อง Covid Free setting และมาตรการครอบจักรวาล เพื่อดูแลบุคลากรของเราเองหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเราก็ต้องตามดูแลเขา และขอเน้นย้ำว่าเมื่อสงสัยว่ามีความเสี่ยง ขอให้ตรวจ ATK ตนเชื่อว่าจะช่วยได้อย่างมาก เพื่อจะให้ตรวจพบได้ตั้งแต่เริ่มแรกและแยกกักตัวออกไป เพื่อไม่ให้ไปแพร่คนอื่น

“ขอฝากพวกเราทุกคนเรื่องวัคซีน เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญว่าสามารถช่วยได้จริง เพราะที่ดูจากตัวเลขจำนวนผู้ป่วยรุนแรงที่เข้าโรงพยาบาลใส่ท่อช่วยหายใจ หรือผู้เสียชีวิตลดลง แต่ก็เช่นเดิมเมื่อลงมาถึงจุดหนึ่งแล้วจะไม่ลงไปอีก แต่อย่างไรก็ตามวัคซีนมีประโยชน์มาก ตอนนี้ประชากร 70 ล้านคน ตามแผนต้องฉีดให้ได้ 70% และเราได้ประกาศแผนจะฉีดให้ได้ 100% สิ้นเดือนธันวาคม 64 นี้ แต่ตอนนี้เราจะเร่งให้ครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ให้ได้” นพ.อุดม กล่าว

คลายล็อก

เร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้า

ทั้งนี้ ขอให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย เนื่องจากตอนนี้มีหลายคนยังลังเล โดยเฉพาะคนสูงอายุที่รับฟังข่าวสารหลายด้าน ซึ่งตนยังยืนยันว่าวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าโทษ ถึงแม้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงแน่นอน แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่มีข่าว แต่ประโยชน์นั้นมีมากกว่ามากจริง ๆ ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขสถิติ จึงขอให้ช่วยกันมาฉีดวัคซีน เรากำลังพยายามเร่งรัดเพื่อให้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้า เนื่องจากวัคซีนเป็นตัวพื้นฐานที่ทำให้เรามีภูมิต้านทานขึ้น ถึงแม้ติดเชื้อไปก็ไม่มีอาการรุนแรง และถ้าดูจากอัตราการเสียชีวิตก็พบว่าผู้เสียชีวิต 70-80 % ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคร่วม ดังนั้นผู้สูงอายุ ผู้มีความเสี่ยงสูง ยิ่งจะต้องฉีดวัคซีน

นพ.อุดม กล่าวอีกว่า ตอนนี้คิดว่าเปิดประเทศพอจะเดินไปได้แล้ว และที่ประชุม ศบค. วันเดียวกันนี้จะผ่อนคลายมากขึ้น ให้รอฟังจากการแถลง เป็นการผ่อนคลายมาตรการให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศจะได้มีความคล่องตัวกันมากขึ้น และที่สำคัญคือเราตั้งเป้าว่าปีใหม่อยากให้พวกเราทุกคนได้ฉลองกันอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ลืมว่าเราต้องช่วยกันปฏิบัติและเคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข

คลายล็อก
ห่วงคลัสเตอร์ลอยกระทง

ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงเทศกาลลอยกระทงมีความเป็นห่วงหรือไม่ว่าอาจจะเกิดคลัสเตอร์ขึ้นมาก นพ.อุดม กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงเทศกาลลอยกระทง ช่วงนี้เราก็ได้เห็นคลัสเตอร์งานกฐินและงานศพมีมาทุกวันในหลาย ๆจังหวัด ดังนั้นลอยกระทงก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นการรวมกลุ่มของคนหมู่มาก เราเข้าใจเพราะเราเองก็อยากมีความสุขรื่นเริง เพียงแต่ขอให้ช่วยกันระมัดระวัง เพราะในความเป็นจริงเราไม่ได้ห้าม ชาวบ้านทั่วไปทุกคนไปได้ แต่ขอไม่ให้จัดอีเว้นใหญ่ ๆ และเพียงแต่ให้ระมัดระวัง เพราะตนกลัวว่าพวกเราจะไม่ได้ฉลองปีใหม่เนื่องจากอยากให้ฉลองกันทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการผ่อนคลายให้สถานบันเทิงอย่างไร นพ.อุดม กล่าวว่า สำหรับสถานบันเทิงเราเข้าใจว่าถึงอย่างไรก็จะต้องเปิด แต่ตอนนี้ขอให้เตรียมการให้ดีเสียก่อน เพราะที่สำคัญที่มีปัญหามากคือเรื่องการถ่ายเทอากาศ ดังนั้น เรื่องการถ่ายเทอากาศจะต้องมีการไปตรวจประเมิน ก่อนที่คุณจะทำได้ ส่วนมาตรการทางสาธารณสุขต้องทำอยู่แล้ว แต่เราก็รู้ว่าข้างในนั้นทำยากมาก การเว้นระยะห่าง แต่พอเราดื่มเหล้าเข้าไปก็จะมีการพูดคุยเสียงดังร้องเพลงจึงห้ามยาก แต่อย่างน้อยถ้าการระบายอากาศดี เหมือนอย่างเครื่องบินก็จะติดน้อยมาก

“ตอนนี้เราก็จะพยายามเพราะคงเปิดแน่ เพียงแต่ว่าขอให้ได้มีการเตรียมการก่อน เพื่อให้ทางสาธารณสุขและกทม.ได้ไปตรวจสถานที่ ซึ่งผมคิดว่าก็อาจจะหลังปีใหม่ เพราะถ้าเปิดก่อนปีใหม่ผมกลัวว่า เดี๋ยวปีใหม่เราจะไม่ได้เลี้ยงฉลอง เพราะเรามีบทเรียนกันมา 2 รอบแล้ว ที่เกิดคลัสเตอร์ใหญ่จากสถานบันเทิง ดังนั้นผมคิดว่าใจเย็น ๆ กันนิดนึง ยังไงเราให้เปิดแน่นอน” นพ.อุดม กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo