ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เคาะสูตรฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งการฉีดไขว้ต่างยี่ห้อ และฉีดเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช็ครายละเอียดที่นี่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค มีข้อแนะนำวำสำหรับสูตรฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ดังนี้
1. ฉีดเข็ม 1 ห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 4 สัปดาห์ ฉีดสำหรับผู้อายุ 12 ปีขึ้นไป
2. สำหรับการฉีดสูตรไขว้ ดังนี้
- ซิโนแวค+โมเดอร์นา ให้ห่างกัน 4 สัปดาห์
- แอสตร้าฯ+โมเดอร์นา ให้ห่างกัน 4 สัปดาห์
- ซิโนฟาร์ม+โมเดอร์นา ให้ห่างกัน 4 สัปดาห์
3. การฉีดเข็มกระตุ้น
- หลังรับซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็มแล้ว สามารถฉีดโมเดอร์นาได้ หลังฉีดเข็ม 2 แล้ว 4 สัปดาห์เป็นต้นไป
- ผู้ที่ฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม ก็ฉีดเข็ม 3 เป็นโมเดอร์นาได้ หลังเข็ม 2 แล้ว 6 เดือนขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังมีมติที่นำเข้าสู่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อเห็นชอบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. การฉีดวัคซีนเข้าในชั้นผิวหนัง (Intradermal) เนื่องจากมีข้อมูลว่าสามารถลดปริมาณการใช้วัคซีนได้ โดยประสิทธิผลใกล้เคียงกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular) ตามปกติ แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังเห็นชัดกว่า แต่อาการไข้ลดลงกว่า เพราะใช้วัคซีนน้อยกว่า
คณะกรรมการฯ มีมติว่า สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวหนังได้ โดยเฉพาะกรณีวัคซีนมีจำกัด หรือไม่เพียงพอ เช่น หากวัคซีนไม่พอ เดิมฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้ 1 คน แต่ฉีดเข้าในชั้นผิวหนัง จะได้ 3-5 คน ก็จะเพิ่มการฉีดได้มากขึ้น
2. คำแนะนำการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ห่างกับวัคซีนโควิด จากเดิมที่ให้ห่างกัน 4 สัปดาห์ลดมาเป็น 2 สัปดาห์ ขณะนี้คำแนะนำใหม่สามารถฉีดพร้อมกันได้ เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิดไปเกือบ 80 ล้านโดสแล้ว พบผลข้างเคียงรุนแรงมีไม่มาก
3. กรณีการฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม คณะอนุกรรมการฯ แนะนำฉีดเข็ม 3 ห่างจากการเข็ม 2 แล้ว 6 เดือนขึ้นไป ด้วยวัคซีนด้วยไฟเซอร์
ดังนั้น ผู้ที่ฉีดแอสตร้าฯ เข็ม 2 ในเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน สามารถไปติดต่อขอรับไฟเซอร์เข็ม 3 ตามความสมัครใจได้ที่ รพ.ใกล้บ้าน โดยขึ้นกับปริมาณวัคซีนที่มี
ส่วนผู้ที่จองวัคซีนโมเดอร์นาไว้ ซึ่งเป็นชนิด mRNA เช่นเดียวกันก็สามารถรับเข็ม 3 ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
4. กรณีที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 เช่น แอสตร้าฯ แล้วมีอาการไข้สูง ท้องเสีย เป็นไข้หลายวัน จนไม่อยากฉีดเข็ม 2 หรือแพทย์พิจารณาว่ามีอาการค่อนข้างมาก ให้เปลี่ยนเป็นชนิดอื่นต่อไป คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า ขอให้เปลี่ยนชนิดวัคซีนได้ กรอบการฉีดเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ตามดุลยพินิจของแพทย์
ตัวอย่างเช่น แอสตร้าฯ ตามด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาได้ แต่ไม่แนะนำเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม แต่หากเข็ม 1 เป็นซิโนแวคเข็ม 2 อาจใช้แอสตร้าฯ ได้ ส่วนคนที่ฉีดเข็ม 1 เป็นไฟเซอร์ โมเดอร์น่า ก็จะพิจารณาเป็นราย ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ในนกรณีมีความจำเป็นต้องไปต่างประเทศ ที่ปลายทางกำหนดเรื่องการฉีดวัคซีนต่างกัน ก็ขอให้จุดฉีดพิจารณาให้ฉีดได้ตามความต้องการของผู้ที่จะไปต่างประเทศได้ เนื่องจากขณะนี้ไทยมีวัคซีนค่อนข้างเพียงพอ แต่ขอให้พิจารณารายกรณี
ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลวัคซีนที่ฉีดในกทม.หลักๆ ในช่วงนั้น พบว่า สูตรแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ห่างกัน 12 สัปดาห์ ป้องกันการติดเชื้อได้ 54% ส่วนสูตรซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ ห่างกัน 4 สัปดาห์ ป้องกันได้ 70% ดังนั้น หากดูจากการศึกษานี้ พบว่าสูตรไขว้มีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ดร.อนันต์ แนะ ฉีดซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ควรฉีดเข็มกระตุ้นด้วยโมเดอร์นา หรือไฟเซอร์
- ‘หมอยง’ สรุป 6 ข้อควรรู้วัคซีนโควิด-19 ไม่มีตัวไหนป้องกันติดเชื้อ 100% ภูมิลดตามเวลา
- ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเงื่อนไข จอง จ่าย จัดสรร วัคซีนโมเดอร์นาเข็มกระตุ้น
