โควิด เชียงใหม่ บนเส้นทาง 3 แพร่ง ‘หมอขวัญชัย’ ชี้ชาวเชียงใหม่ต้องเลือกเอง!!

โดย WANPEN PUTTANONT 3 พฤศจิกายน 2564

ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มช. เกาะติดโควิด เชียงใหม่ ประเมิน 3 สถานการณ์ จะอยู่กับโควิดอย่างปลอดภัย ชาวเชียงใหม่ต้องร่วมใจป้องกันตนเอง

ศ.นพ.ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Khuanchai Supparatpinyo ถึงสถานการณ์โควิด เชียงใหม่ ที่อยู่บนเส้นทางหลายแพร่ง และการอยู่กับโควิดอย่างปลอดภัย พร้อมประเมิน 3 สถานการณ์เดือนพฤศจิกายน โดยระบุว่า

การอยู่กับโควิดอย่างปลอดภัย

เชียงใหม่บนเส้นทางหลายแพร่ง ชาวเชียงใหม่เป็นผู้เลือกเอง ว่าจะเดินไปทางไหน

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 7,196 ราย หรือเฉลี่ย 232 รายต่อวัน แต่ยังโชคดีที่มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพียง 17 ราย หรือเฉลี่ยไม่ถึง 1 รายต่อวัน โดยมีอัตราการป่วยตายต่ำมากเพียง 0.24%

ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับกทม.ในช่วงที่มีการระบาดหนักเดือน สิงหาคม ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 127,428 รายหรือเฉลี่ย 4,111 รายต่อวัน เสียชีวิตมากถึง 2,435 รายหรือเฉลี่ย 79 รายต่อวัน อัตราการป่วยตาย 1.91% สูงกว่าเชียงใหม่เกือบ 10 เท่า

รูปที่ 1 แสดงข้อมูลผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันในเชียงใหม่จนถึงสิ้นเดือน ตุลาคม จะเห็นว่ามีแนวโน้มจะถึงจุดสูงสุดและเริ่มทรงตัว

เลยมีคนถามว่าแล้วในเดือน พฤศจิกายน สถานการณ์ของโควิดในจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นอย่างไร

คำตอบคือ เรามีเส้นทางหลายแพร่งรออยู่ข้างหน้า ซึ่งแสดงได้ด้วยรูปที่ 2 ดังนี้

1. เส้นทางแรก เป็นเส้นประสีดำ โดยหากการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ยังควบคุมได้ไม่ดี หรือควบคุมไม่ได้ และอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนไม่เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร จำนวนผู้ติดเชื้อจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่น่าจะด้วยอัตราเร่งที่ไม่มากนัก แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเราคงจะไม่มีงานฉลองปีใหม่ 2565 ที่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน

2. เส้นทางที่สอง เป็นเส้นประสีแดง ถ้าเราสามารถควบคุมการระบาดได้อย่างดีเยี่ยม และอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนครอบคลุมได้ถึง 100% ของประชากรเชียงใหม่ก่อนสิ้นเดือน ตามแผนที่รัฐบาลรับปากไว้

กราฟจะเป็นรูประฆังคว่ำสวยงามตามอุดมคติ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยอัตราที่ใกล้เคียงกับขาขึ้น และลงไปถึงระดับต่ำสุดภายในไม่เกินสิ้นเดือน พฤศจิกายน

3. แต่แนวโน้มที่น่าจะเป็นมากกว่าคือ เส้นประสีเขียว ซึ่งเป็นกรณีที่เราสามารถควบคุมการระบาดได้พอสมควร แต่อัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนเพิ่มขึ้นไม่เร็วอย่างที่รัฐบาลรับปากไว้ รวมทั้งมาตรการเปิดเมืองเปิดประเทศและความหละหลวมในการป้องกันตนเองของประชาชน

กราฟจะเป็นรูประฆังคว่ำที่เบ้ไปมากน้อยตามปัจจัยบวกลบที่เกิดขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง ด้วยอัตราที่ช้ากว่าขาขึ้น แต่ในที่สุดน่าจะลงไปถึงระดับต่ำสุดได้ภายในเดือน ธันวาคม

แม้ว่าภาครัฐจะมีบทบาทที่สำคัญคือ การเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรให้มากและเร็วที่สุด แต่ชาวเชียงใหม่เอง ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการเลือกเส้นทางที่จะเดินไปข้างหน้า

ความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน ในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ โดยใช้วิธีการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ไม่ว่าจะไปที่ไหนให้คิดว่าทุกพื้นที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเท่ากันหมด

ทุกคนต้องใช้มาตรการอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดคือ สวมหน้ากากผ้า รักษาระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ เชื่อว่าถ้าพวกเราร่วมด้วยช่วยกัน ถึงจะไม่สามารถเดินไปทางเส้นทางสีแดงในอุดมคติได้ แต่อย่างน้อยเราน่าจะเดินไปตามเส้นทางสีเขียว

ถ้าทำได้จริง เราก็จะสามารถฉลองปีใหม่ 2565 ร่วมกันได้อย่างมีความสุขมากกว่าปีใหม่ 2 ครั้งที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม