“หมอธีระวัฒน์” ห่วงเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน ทำเชื้อหลุดรอดจากต่างประเทศ หวั่นเกิดเชื้อใหม่กลายพันธุ์ แนะต้องตรวจคัดกรองให้ไว ฉีดวัคซีนครอบคลุม รักษาเร็ว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เผย 7 ข้อน่าเป็นห่วงเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่า
เปิดประเทศหนึ่งพฤศจิกายน ต้องห่วงหรือไม่?
สภาพพื้นฐาน
1. เปิดประเทศ หมายความรวมถึงคนไทยและคนต่างประเทศ ในการใช้ชีวิตและเดินทางสัญจร
2. ตัวเชื้อ ตัวเลขการติดเชื้อมีความเป็นไปได้สูง ที่มากกว่าตัวเลขที่รับทราบในปัจจุบัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตรวจมากหรือน้อยและการใช้ ATK ซึ่งมีข้อจำกัดและหลุดรอดได้มาก
เชื้อที่อาจหลุดรอดจากต่างประเทศมีความเป็นไปได้ และลักษณะหน้าตาจะผิดเพี้ยนจากที่มีในประเทศ และประสมควบรวมกันต่อไป
3. การตรวจ ในปัจจุบันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีการตรวจคัดกรองโดยไม่มีพิธีรีตองโดยกระบวนการพีซีอาร์ ที่ต้องทำได้ทั่วทุกหัวระแหง ทำให้ไม่สามารถสะท้อนสถานการณ์ความเป็นจริงที่อาจจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ได้ และไม่สามารถนำไปสู่การแยกตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การแพร่กระจาย ผลกระทบจากการแพร่ แม้จะไม่มีอาการก็ตาม เปิดโอกาสให้ไวรัสมีการปรับแต่งตัวเอง และอาจนำไปสู่ความสามารถในการติด และการดื้อวัคซีนมากขึ้น
5. วัคซีน จำนวนสองเข็ม ที่ขณะนี้ 40% ควรต้องพิจารณาถึงสองเข็มที่ฉีดไปนานแล้วโดยเฉพาะที่เป็นเชื้อตาย ดังนั้น ตัวเลข ผู้ที่ยังคงมีภูมิป้องกันการติดเชื้อ จะน้อยกว่า
นอกจากนั้น เชื้อที่พัฒนาขึ้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะดื้อวัคซีน โดยที่ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อย ๆ จนน้อยกว่า 50% หรือแทบไม่ได้เลยโดยเฉพาะกับวาเรียนท์ เบต้า
การฉีดรวดเร็วเชิงรุกคลุม 80-90% และปลอดภัยสูง เป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนังโดยที่ พิสูจน์แล้วทั้งที่เป็นเข็มกระตุ้นตามสองเข็มแรก ที่ไม่ใช่สูตรไขว้ SV AZ ซึ่งได้ผลไม่ดี
การฉีดเข้าชั้นผิวหนังมีการทดสอบแล้วตั้งแต่เป็นเข็มแรกที่เป็น MDN
ถ้าไม่สามารถแก้ไขการฉีดวัคซีนทั่วถึงและอย่างปลอดภัยได้ โอกาสที่การติดเชื้อจะแพร่ระบาดลุกลามไปได้ทุกพื้นที่ และอาการสีเหลืองส้มและสีแดง จะเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
6, การรักษา ที่ควรต้องทำอย่างยิ่ง คือ การใช้สมุนไพรในประเทศ ในลักษณะของการให้ตั้งแต่นาทีแรกที่ติดหรือน่าจะติด ทั้งนี้ต้องพิจารณาอย่างรีบด่วน และถ่องแทั ถึงยาทางเลือกตัวอื่น ที่มีข้อขัดแย้งและข้อสนับสนุนในเรื่องประสิทธิภาพ ทั้ง ๆ ที่ไม่ติดสิทธิบัตรและสามารถผลิตในประเทศไทยได้เอง โดยสามารถทำให้ราคาไม่กี่บาท
สิ่งเหล่านี้จะช่วยตรึงไม่ให้อาการของโรคยกระดับขึ้นจนต้องเข้า โรงพยาบาล และสถานพยาบาลในระดับต่าง ๆ และนำไปสู่การรักษา ด้วยฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่ายาเหล่านี้ จะช่วยในกรณีที่อาการเป็นสีเหลือง หรือเหลืองแก่ จะดีที่สุด และการใช้อย่างมหาศาล เป็นไปได้ที่จะมีการดื้อยาเกิดขึ้น ยาแอนตี้บอดี้ ที่ยับยั้งไวรัสได้ชั่วคราวรวมทั้งที่ลดการอักเสบ มีราคาสูงมาก
7. วินัย สถานการณ์ที่มีการประกาศทุกวัน ถึงตัวเลขที่ลดลง ความรุนแรงที่ดูน้อยลงตามวัฎจักรของโควิด ที่จะบรรเทาเบาบาง ไประยะหนึ่ง เมื่อความหนาแน่นของการติดเชื้อมากขึ้น พร้อมกับการผันแปรของรหัสพันธุกรรม จึงจะเห็นตัวจริงอีกครั้ง
สภาพประหนึ่งเสมือนว่าคลี่คลาย บวกกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่พังสลาย ทำให้ต้องมีกิจกรรมทางสังคม และในชุมชนต่าง ๆ เกิดขึ้นรวมทั้งการเปิดโรงเรียน
ผลกระทบ
ถ้าไม่สามารถยกระดับความเข้มแข็งทั้งวัคซีน การตรวจ และการรักษาตั้งแต่นาทีแรกได้ ในระยะไม่นาน อาจเผชิญกับสถานการณ์ดื้อวัคซีนด้วยเชื้อ subvariants จนถึง เชื้อใหม่จากการควบรวมสายต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และนำไปสู่วิกฤติของระบบสาธารณสุข ที่กระทบคนป่วยทั้งที่เป็นและไม่เป็นโควิด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หวั่นใจเปิดประเทศ!! ประชาชน 17 จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง กังวลโควิดระบาดรอบใหม่
- จับตา!! ‘ศบค.ชุดใหญ่’ เตรียมถกแผนรับเปิดประเทศ 29 ต.ค.นี้
- ‘วิทยุการบินฯ’ เตรียมพร้อมรับเปิดประเทศ 1 พ.ย. คาดเที่ยวบินเพิ่ม 1.4%