“อนุทิน” ย้ำฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไม่มีแบ่งเด็กในระบบหรือนอกระบบการศึกษา ให้ยึดเกณฑ์อายุ 12-17 ปีมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนทุกคน ภายใต้ความยินยอมของผู้ปกครอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการฉีดวัคซีนโควิดในเด็กนักเรียน ว่า ขณะนี้สามารถฉีดวัคซีนได้ตามที่คาดการณ์ ข้อมูลจากหมอพร้อมฉีดแล้วกว่า 2 ล้านราย พร้อมรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนนี้
รับวัคซีนมีประโยชน์มากกว่า
ทั้งนี้ จากการฉีดที่ผ่านมายังไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรงเป็นอันตราย จึงขอให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาฉีดวัคซีน เพราะจะทำให้เกิดความมั่นใจทั้งตัวเด็ก ครูอาจารย์ และผู้ใกล้ชิดเด็กในการเปิดเรียน รวมถึงช่วยป้องกันทั้งติดเชื้อและแพร่เชื้อ เนื่องจากหากไม่ฉีดวัคซีน เมื่อไปเรียนเด็กอาจรับเชื้อภายนอกบ้าน และนำกลับมาแพร่ให้คนในครอบครัวได้
“การรับวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าไม่ได้รับวัคซีน ช่วยป้องกันตนเองให้ปลอดภัยและป้องกันผู้อื่น สังคมไทยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ถ้าทุกคนได้ฉีดวัคซีน โอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อให้กันจะน้อยลง” นายอนุทิน กล่าว
ได้ฉีดไฟเซอร์ทุกคน
ส่วนกรณีเด็กอายุ 12-17 ปี นอกระบบการศึกษาที่พบว่าบางส่วนเข้ารับการฉีดวัคซีนไม่ได้นั้น ได้มอบหมายให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อกำชับสถานพยาบาลและหน่วยบริการฉีดวัคซีน ให้ฉีดเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปโดย ไม่มีการแบ่งว่าเป็นเด็กที่อยู่ในระบบหรือนอกระบบการเรียน แต่ให้ยึดตามเกณฑ์อายุ 12-17 ปี จะมีสิทธิได้รับวัคซีนทุกคนตามความสมัครใจ ซึ่งในกลุ่มนอกระบบการศึกษาให้สถานพยาบาลเปิดรับลงทะเบียนโดยความยินยอมของผู้ปกครอง
ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 ในเด็กชายอายุ 12-16 ปีที่แข็งแรง อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ รอลุ้น ศบค. เคาะรายชื่อประเทศเสี่ยงต่ำเข้าไทย รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้
- นักเรียนฉีดไฟเซอร์แล้ว 1.5 แสนราย – ห่วงกระแสติ๊กต็อกทำเด็กผวา!!
- ‘หมอธีระวัฒน์’ แนะฉีดวัคซีนเชื้อตายเด็กเล็ก 2 เข็ม กระตุ้นภูมิด้วย ‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ แค่ 1 ส่วน 4 โดส