สธ.เผยไทยฉีดวัคซีนสะสมแล้วกว่า 61 ล้านโดส รับภาพรวมหลายจังหวัดยังฉีดไม่ถึง 50% เร่งเครื่องฉีดรับแผนเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน ส่วนสูตรไขว้ใหม่ รอ ศบค.พิจารณา
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนสะสมถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2564 อยู่ที่ 61,033,251 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 อยู่ที่ 49.2% กำลังจะถึง 50% ของประชากร โดยเข็มที่ 2 อยู่ที่ 33% ซึ่งเข็มที่ 2 นัดหมายห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ส่วนเข็มที่ 3 อยู่ที่ 2.5%
ส่วนการฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียนวันนี้ฉีดไป 499,046 โดส ในเรื่องการฉีดวัคซีนให้นักเรียนนั้น หลายพื้นที่ได้ใช้สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานของศึกษาธิการ ซึ่งเป็นนอกสถานพยาบาล ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจฉีดต่อเนื่อง
สำหรับเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 จึงมีมาตรการต่าง ๆ ในการกำหนดประเทศที่เดินทางเข้ามาต้องมีความเสี่ยงต่ำ การกำหนดเรื่องหลักฐานการฉีดวัคซีน รวมถึงมาตรการในพื้นที่ที่ต้องมีการฉีดวัคซีนในเปอร์เซ็นต์ที่สูง
ปัจจุบัน การฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ มีตัวเลขสูงเกินกว่าฐานในทะเบียนประชากร อยู่ที่ 102.8% จากการที่มีประชาชนทั้งพื้นที่กทม. และปริมณฑลมาฉีด ส่วนภูเก็ต ฉีดไป 80% สมุทรปราการฉีดไป 68.8%
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายจังหวัดฉีดต่ำกว่า 50% ทั้งอุดรธานี 38.1% หนองคาย 38.8% เลย 37.3% ฯลฯ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะพื้นที่เหล่านี้ได้รับการมุ่งเน้นในการเตรียมพร้อม การจัดสรรวัคซีน จึงขอเชิญชวนประชาชนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวติดตามข้อมูลในจังหวัด เพื่อติดต่อจองนัดฉีดวัคซีน
ในกลุ่ม 608 ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนัก เสียชีวิต ก็อยากให้มีการฉีดครอบคลุมถึง 80% โดยภาพรวมครอบคลุมแล้ว 72.3% ซึ่งก็ยังมีพื้นที่ที่ฉีดต่ำกว่า 50% อยู่ แต่ก็เชื่อว่าจากนี้จะเร่งรัดการฉีดไปถึงเป้าหมายได้
ส่วนการฉีดวัคซีนใน 4 จังหวัดภาคใต้ มีนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา โดยภาพรวมฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้วกว่า 1.5 ล้านโดส จากฐานประชากรประมาณ 3.5 ล้านคน คิดเป็น 42.4% ส่วนข้อมูลกลุ่ม 60 ปีขึ้นไปฉีดครอบคลุม 58% ส่วนกลุ่มที่มีโรคประจำตัวฉีดได้ 51% อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนไปจำนวนมาก ซึ่งทางนพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการฯ ได้รับนโยบายปลัด สธ.ในการเร่งรัดฉีดวัคซีนมากยิ่งขึ้น มีเป้าหมายให้ฉีดถึง 70% อาจเป็นปลายเดือนนี้
ภาพรวมการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดในปี 2564 ในส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขจัดหาอยู่ที่ 127.1 ล้านโดส ขณะที่หากรวมวัคซีนทางเลือกจะรวมเป็น 179.1 ล้านโดส ดังนั้น จึงมีวัคซีนเพียงพอ และมีการเติมวัคซีนเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาด โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ที่มีสายพันธุ์ทั้งเดลตา และเบตา จึงจำเป็นต้องจัดส่งไฟเซอร์เข้าไป
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับสูตรวัคซีนที่เรามีการฉีดอยู่ โดยสูตรหลักสูตรไขว้ คือ ซิโนแวค และเข็ม 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า เพราะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง และในเวลารวดเร็ว เนื่องจากหากเป็นแอสตร้าฯ 2 เข็มต้องรอ 3 เดือน ซึ่งการฉีดที่ยังมีซิโนแวคอยู่ ก็ยังใช้สูตรนี้เป็นสูตรหลักต่อไป
ขณะที่การพิจารณาสูตรวัคซีนนั้น ทางคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จะพิจารณาสูตรที่เป็นไปได้ทางวิชาการมีอะไรบ้าง เวลามากำหนดสูตร ก็จะต้องประเมินทั้งเรื่องการส่งมอบวัคซีนว่า มีอะไรอยู่ในมือ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อพิจารณาเชิงบริหารวัคซีนและจะเสนอต่อ ศบค. จึงจะประกาศใช้
อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจในทุกสูตรที่สามารถใช้ได้ เพราะไม่ควรรอ เพราะสถานการณ์บางที การรออาจจะเกิดสานพันธุ์ที่แตกต่างจนมีความรุนแรง และอาจจะเสียประโยชน์ได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผงะ! วัคซีนโควิด 240 ล้านโดส จ่อโดนทิ้งสิ้นปีนี้ เหตุหมดอายุ ส่งต่อไม่ทัน
- เตรียมพร้อมไว้แล้ว!! รมว.ท่องเที่ยว มั่นใจไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ ‘จังหวะดี’ ดึงดูดนักเที่ยว
- 14 ต.ค. ลุ้น ศบค.เคาะ 2 เรื่องใหญ่ ‘ปรับสีจังหวัด-เพิ่มสูตรฉีดวัคซีนไขว้’