สธ.เผย ผู้ปกครองแสดงความจำนงฉีดวัคซีนไฟเซอร์นักเรียน 3.6 ล้านราย คิดเป็น 71% ของจำนวนเด็กนักเรียน 5 ล้านราย ย้ำหากเปลี่ยนใจขอฉีดวัคซีนเพิ่มภายหลังได้
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งตัวเลขนักเรียนทั่วประเทศในฐานข้อมูลจำนวน 5,048,000 ราย โดยผู้ปกครองแสดงความจำนงฉีดวัคซีนให้ลูกหลาน 3,618,000 กว่าราย คิดเป็น 71%
สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 2 ล้านโดส จะกระจายให้ทุกจังหวัด โดยสัดส่วนวัคซีน จะพิจารณาความพร้อมของแต่ละจังหวัดด้วย และจะส่งให้ครบภายในเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีก 8 ล้านโดส จะเริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 4 ตุลาคมนี้ตามความพร้อม
นอกจากนี้ ยังไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดของการฉีดวัคซีน เนื่องจากอาจมีผู้แสดงความจำนงขอฉีดเพิ่มก็จะดำเนินการฉีดให้ ไม่เสียสิทธิแต่อย่างใด สถานที่ฉีดสามารถฉีดได้ทั้งที่สถานศึกษาและโรงพยาบาล โดยขอให้บริหารจัดการคิวไม่ให้มีความแออัด
ส่วนการติดตามเฝ้าระวังอาการ และความปลอดภัย ใช้ระบบเดียวกับผู้ใหญ่ โดยมีการเฝ้าระวังอาการแพ้รุนแรงช่วง 30 นาทีแรกหลังฉีด และมีการติดตามอาการต่อเนื่องอีก 30 วัน
กรณีข้อกังวลเรื่องภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้น อัตราการเกิดต่ำมาก แต่ขอให้สังเกตอาการ คือ แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยง่าย ใจสั่น หมดสติ เป็นลม หรือรู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบมารับการรักษา เพื่อให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเกิดจากภาวะอื่นได้
ขณะที่ข้อปฏิบัติภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีน ไม่แนะนำเรื่องออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะจะทำให้หัวใจต้องทำงานเพิ่มขึ้น และความรู้สึกเหนื่อยจากออกกำลัง อาจทำให้กังวล และไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากวัคซีนหรือไม่
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ยังฉีด 2 เข็ม ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ ส่วนข้อเสนอการฉีดวัคซีนในเด็กผู้ชายเพียงเข็มเดียว จะมีการพิจารณาข้อมูลทางวิชาการ หากมีการปรับเปลี่ยนจะดำเนินการให้ทันก่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
ในส่วนของกลุ่มเด็กประถมอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์การรับวัคซีน ข้อแนะนำคือใช้มาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง หากดำเนินการได้ดีก็ยังสามารถทำกิจกรรมการเรียนการสอนได้
ภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของวันที่ 30 กันยายน ที่มีการรายงานเข้ามา 2.28 ล้านโดสนั้น เป็นการนำข้อมูลจากการระดมฉีดวัคซีนตั้งแต่วันมหิดล 24 กันยายน ซึ่งมีการฉีดเชิงรุกและฉีดในชุมชนรวม 1,700,523 โดส รวมกับการฉีดของวันที่ 30 กันยายน จำนวน 588,205 โดส รวมเป็น 2,288,728 โดส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฉีดไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม ยังมีโอกาสติดเชื้อ 2.6% สายพันธุ์เดลตาทำประสิทธิภาพวัคซีนลด
- ปลอดภัยที่สุด!! ฉีดวัคซีนเด็ก ใช้เชื้อตาย กระตุ้นด้วย mRNA เข้าชั้นผิวหนัง
- ‘หมอธีระวัฒน์’ ฟันธง ทางเลือกฉีดวัคซีนเด็ก เพื่อความปลอดภัยสูงสุด