“หมอธีระวัฒน์” ชี้เด็กเล็กถึงวัยรุ่น ควรได้รับวัคซีน เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเหมือนผู้ใหญ่ และสามารถแพร่เชื้อต่อได้ ล่าสุดจีนเริ่มให้วัคซีนเชื้อตายในเด็กแล้ว
ศ.นพ.ธีระน์วัฒ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” โดยระบุว่า
“เด็กเล็กถึงโตและวัยรุ่น ควรได้วัคซีน
ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เด็กมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเหมือนกับผู้ใหญ่ และปฏิบัติตัวเป็นคนแพร่เชื้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้โดยทั่วไปอาจจะไม่ยกระดับเป็นอาการหนักเท่าผู้ใหญ่ก็ตาม
ข้อจำกัดของวัคซีนในปัจจุบันอยู่ที่ อาจจะยังขาดข้อมูลความปลอดภัยในกลุ่มเด็กตั้งแต่ 1-2 ขวบ ไปจน 16 ปี
แต่อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนเองได้เล็งเห็นความสำคัญ และมีการใช้วัคซีนเชื้อตายในกลุ่มเด็กแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนเทคโนโลยีอื่น วัคซีนเชื้อตายควรจะมีความปลอดภัยที่สุดในเด็ก จากประสบการณ์ของวัคซีนหลากหลายที่เป็นเชื้อตาย และใช้กันมานานมากกว่า 60 ปี
นอกจากนั้น จากข้อมูลในประเทศไทยเอง จะพบว่าผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายเช่น ชิโนแวค ชิโนฟาร์ม ครบสองเข็ม และหลังจากนั้นตามต่อด้วยวัคซีนเช่น แอสตร้า หรือ ไฟเซอร์ โมเดนา จะมีระดับของภูมิคุ้มกันที่สามารถยับยั้งไวรัส หรือที่เรียกว่าภูมิดีขึ้นสูงมากถึงระดับเกือบ 100%
และสามารถมีประสิทธิภาพครอบคลุมสายพันธุ์อื่นเช่น เดลตา ได้อย่างดีมาก ซึ่งควรจะได้รับผลเช่นเดียวกันในกลุ่มเด็ก แล้วจะสามารถครอบคลุมคนไทยได้ทุกอายุในประเทศไทย”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นพ.ธีระวัฒน์ ลั่น ‘การคัดกรอง’ จำเป็นสูงสุด ATK ต้อง ‘ไม่ห่วย-ไม่โก่งราคา’
- ‘นพ.ธีระวัฒน์’ บอกสงครามอีกยาวนาน-รุนแรง สายพันธุ์ใหม่ดาหน้ามาเรื่อยๆ
- อย่าด้อยค่า โดยไร้เหตุผล! สถานทูตจีนออกโรงป้อง ‘ซิโนแวค’ ไม่ใช่ ‘วัคซีนคุณภาพต่ำ’