กรมอนามัย ย้ำชัด ห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่สีแดงเข้ม ปฏิบัติอย่างเข้มงวด เตรียมใช้มาตรการความปลอดภัย 3 ด้าน หลังมีการผ่อนคลายให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการผ่อนคลายมาตรการ ให้ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม เปิดให้บริการได้นั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่คนรวมตัวกันค่อนข้างสูง จึงขอความร่วมมือห้างค้าปลีก ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม และห้องน้ำ ทุก 1-2 ชั่วโมง
- ส่งเสริมให้ชำระเงินแบบออนไลน์
- ทำสัญลักษณ์เว้นระยะห่าง บริเวณทางเข้า และจุดต่อคิว
- จัดระบบจัดคิว จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร
- จัดให้มีฉากกั้นระหว่างพนักงาน (แคชเชียร์) และลูกค้า
- เดินระบบจ่ายอากาศสะอาดหรือเปิดประตู หน้าต่าง อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิดและหลังปิดระบบปรับอากาศมีการระบายอากาศที่เหมาะสมต่อจำนวนคน
- ห้องน้ำควรเปิดพัดลมระบายอากาศตลอดเวลาที่ให้บริการ
- ขอความร่วมมือให้ประเมินและรับรองตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus และแสดงใบรับรอง เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งสถานประกอบการและผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการที่จะบังคับใช้ในอนาคต ซึ่งจะพิจารณาตามสถานการณ์ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ได้แก่ การใช้มาตรการ COVID Free Setting ประกอบด้วยความปลอดภัย 3 ด้าน คือ
1. ด้านสิ่งแวดล้อมปลอดภัย (COVID Free Environment) อาทิ
- การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ทุก 1- 2 ชั่วโมง เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบันได ราวจับรถเข็น ที่เปิดประตู
- หมั่นทำความสะอาดสินค้า ง
- ทำความสะอาดระบบปรับอากาศทุก 3 เดือน
- ใช้ระบบกรองอากาศ HEPA หรือติดตั้งอุปกรณ์กรองอากาศเฉพาะที่ เน้นบริเวณที่มีคนจํานวนมากและอากาศไม่ไหลเวียน เช่น ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น
- เข้มงวด ห้ามการรวมตัวกันจุดใดจุดหนึ่งด้วย
2. ด้านพนักงานปลอดภัย (COVID Free Personnel)
พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือน และให้มีการคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยระบบไทยเซฟไทย รวมถึงจัดหา ATK ให้พนักงาน เพื่อทําการตรวจทุก ๆ 7 วัน
ขณะเดียวกัน ต้องกำชับให้งดรวมกลุ่มขณะปฏิบัติงาน ระหว่างพัก และงดกินอาหารร่วมกัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)
3. ด้านผู้ใช้บริการปลอดภัย (COVID Free Customer)
- ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด
- กรณีหากจะใช้บริการในกิจการเสี่ยง ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือตรวจ ATK ผลเป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน
- ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือข้อกำหนดของจังหวัดด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กทม.ออกประกาศ เสริมสวยในห้าง จำกัดเวลาคนละ 2 ชั่วโมง
- ข่าวดี!! เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มร้านอาหาร กทม.ปริมณฑล 60,000 ราย
- พื้นที่ล็อกดาวน์ เปิดได้ไหม! ‘ร้านเสริมสวย-คลินิกเสริมความงาม’