COVID-19

‘หมอนิธิพัฒน์’ ห่วงผู้ป่วยโควิด ‘โกงตาย’ กลับมาไม่เหมือนเดิม แนะผ่อนคลายทีละน้อยอย่างเข้มงวด

“หมอนิธิพัฒน์” ห่วงผู้ป่วยโควิด รักษาหายแต่ไม่เหมือนเดิม แนะเวลาผ่อนคลายมาตรการ อยากได้ยิน “ผ่อนคลายทีละน้อยอย่างเข้มงวด” พร้อมกำหนดกติกาตัวชี้วัดที่ชัดเจน หวั่นโควิดพุ่ง ซ้ำรอยคลายล็อกครั้งก่อน

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล กรณีศบค.ชุดใหญ่ เตรียมผ่อนคลายมาตรการ หวั่นซ้ำรอยคลายล็อกปลายพฤษภาคม ทำยอดโควิดพุ่งพรวด บุคลากรด่านหน้ากรำศึกยาวนาน พร้อมห่วงผู่ป่วยโควิดที่รอด แต่ไม่เหมือนเดิม โดยระบุว่า

ผ่อนคลายมาตรการ

“แม้ว่าจะถูกกลบไปด้วยข่าวการทดสอบถุงคลุมหัว ที่ดินแดนปากน้ำโพ แต่เชื่อว่าพรุ่งนี้ สายตาทุกคู่คงจับจ้องไปที่การประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่าจะไปอย่างไรกันต่อ

นี่แค่ยังไม่ถึงวันจริง ก็เริ่มมีข่าวจาก ฝ่ายนโยบายสายพิราบ ที่ออกมากระดี๊กระด๊าว่า จะผ่อนคลายโน่นนี่นั่น โดยให้เหตุผลว่า กราฟแสดงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งประเทศ เริ่มลดลงต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว ทั้งที่ยังเป็นตัวเลขที่เกินขีดความสามารถ ตามศักยภาพของภาคการแพทย์ที่ควรจะเป็น อยู่อีกหลายเท่าตัว

เย็นไว้โยม หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์ครั้งออกพรก.ฯ ฉบับที่ 23 เพื่อผ่อนคลายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แน่นอนพวกสายเหยี่ยวตอนนั้นส่งเสียงค้าน แต่มันคงไปไม่ถึงผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ผ่านไปสองเดือนเศษ สถานการณ์บานปลาย เหมือนมะเร็งระยะลุกลาม จนต้องออกพรก.ฯ ในเวลาไล่เลี่ยกันถึงอีก 5 ฉบับ กว่าจะเริ่มล็อคคอโควิดให้พอนิ่งหายพยศลงได้บ้าง

คลายล็อก

อย่าลืมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า จะผ่อนคลายเร็วหรือช้า เพราะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันสำคัญตรงฝ่ายมีหน้าที่บังคับใช้ พรก. จะใส่ใจทำให้มาตรการสวยหรูที่ประกาศออกมา เป็นจริงเป็นจังได้หรือไม่

ไม่เช่นนั้น ภาระหนักอึ้ง คงไม่พ้นบ่าของบุคลากรด่านหน้าทุกสาขาอาชีพ ที่กรำศึกกันมาต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงการชี้ชะตาระบบสาธารณสุข ในการดูแลรักษาผู้ป่วยอื่น ซึ่งไม่ใช่โควิด ที่นับวันจะหดแคบด้านคุณภาพลงไปมากเข้าทุกที

เราคงต้องทนอยู่กับโควิดแบบนี้กันไปอีกนาน หรือเราอยากจะอยู่กันแบบใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพื่อรอลุ้นตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยอาการรุนแรง ผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ และผู้ป่วยเสียชีวิต ที่มีคนมารายงานให้ฟังรายวัน

มีอีกตัวเลขหนึ่งที่ยังไม่เคยสำรวจกันจริงจัง และยังไม่ค่อยพูดถึงกันนัก คือ กลุ่มผู้ป่วยที่รอดกลับมา แต่ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิต ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนดังเดิมได้

ผู้ป่วย 1

ผู้ว่าปู อาจเป็นตัวอย่างของรายที่โชคดี แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะไปตรากตรำงานหนักที่สมุทรสาคร ผู้ป่วยชายอายุ 62 ปีในรูปเอกซเรย์ชุดแรก ต้องเรียกว่า โกงตาย หนักกว่าพ่อเมืองสาครหลายเท่า ที่ปอดฟื้นกลับมาได้ หลังใช้เครื่องหัวใจและปอดเทียม (เอ็คโม) นานกว่าสองเดือน แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ที่จะฟื้นฟูกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งคงจะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ทั้งหมด

ผิดกับผู้ป่วยอีกรายในเอกซเรย์ชุดที่สอง ที่เนื้อปอดถูกทำลายไปมาก ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ แล้วถูกแทนที่ด้วยพังผืดอย่างหนาแน่น พอกับเนื้อปอดส่วนดีที่ยังเหลืออยู่ ถึงแม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็อาจจะถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจต่อไป เป็นการถาวร

ผ่อนคลายมาตรการ

ในครั้งที่จะเพิ่มมาตรการ ฝ่ายนโยบายใช้คำว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างเข้มงวด ดังนั้นในโอกาสภายหน้า ที่จะผ่อนคลายมาตรการ ผมอยากได้ยินเช่นเดียวกันว่า ผ่อนคลายทีละน้อยอย่างเข้มงวด พร้อมกำหนดกติกาตัวชี้วัดที่ชัดเจน ให้สังคมรับทราบ และร่วมกันติดตามผล

และหากไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คำขอโทษพร้อมข้อเสนอแนวทางแก้ไขใหม่อย่างทันท่วงที เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่น่าจะยอมรับ และให้อภัยได้ ดีกว่าการดื้อรั้น เอาสีข้างเข้าถู ยื้อจนระฆังหมดยกแบบรอไปตาย (กันหมด) เอาดาบหน้า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo