“แอสตร้าเซนเนก้า” ตอบรับไทย เตรียมส่งวัคซีนให้อีก 7.2 ล้านโดส เดือนก.ย.นี้ “หมอโอภาส” ระบุ จะเจรจากันเป็นระยะ ๆ ชี้ อาจจำเป็นต้องฉีดเข็ม 3 เพราะเมื่อผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ภูมิคุ้มกันลดลงทั้งนั้น ไม่ว่าจะฉีดยี่ห้ออะไร
วันนี้ (21 ส.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ว่า กรุงเทพมหานคร สามารถฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุแล้ว 94% รองลงมาเป็นปทุมธานี 63% คาดว่า ในสิ้นเดือนสิงหาคม จะใกล้เคียงกับเป้าหมายหรือเกินเป้าหมาย
สำหรับจำนวนวัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยในขณะนี้ มีวัคซีนที่เข้ามาสู่ประเทศไทย 30 ล้านโดส ซึ่งเมื่อวัคซีนเข้ามา จะมีการตรวจในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย หลังจากนั้นจะกระจายไปจุดฉีดต่าง ๆ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม มีจำนวนวัคซีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในเดือนกันยายนเป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข จะเจรจากับแอสตร้าเซนเนก้าเป็นระยะ และมีเจตจำนงที่ต้องการวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทได้มีการตอบสนอง อย่างเช่น เดือนกันยายน ได้ส่งสัญญาณว่า จะมีการส่งวัคซีนให้กับประเทศไทย 7.2 ล้านโดส เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีวัคซีนเข้ามาเรื่อย
นพ.โอภาส บอกด้วยว่า แนวโน้มจากการฉีดวัคซีนพบว่า อาจจะจำเป็นต้องใช้เข็มที่ 3 เนื่องจากหลังฉีดวัคซีนไป 2 เข็ม ไม่ว่าวัคซีนยี่ห้ออะไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันจะตกลง เพราะฉะนั้นการฉีดเข็ม 3 จะทำให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น
ดังนั้นในปี 2565 จึงมีความจำเป็นจะต้องหาวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อมาฉีดใน 2 กลุ่ม คือกลุ่มเด็ก และกลุ่มบูสเตอร์โดส เพราะฉะนั้นคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้เสนอความเห็น และผ่านความเห็นชอบจาก ศบค.ว่า ในปี 2565 จะต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้กับคนไทยอย่างน้อย 120 ล้านโดส รวมถึงให้มีวัคซีนที่ฉีดมีความหลากหลาย
ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้แสดงเจตจำนง และประชุมหารือกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในหลายบริษัททุกรูปแบบ โดยมีความต้องการที่จะนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์อย่างน้อย 50 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้าอีก 50 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม มีหลายบริษัทที่ผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น หรือเรียกว่าวัคซีนรุ่นที่ 2 ถ้าบริษัทสามารถผลิตวัคซีนโดยมีผลวิจัยยืนยันว่ามีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ขอให้บริษัทส่งมอบวัคซีนรุ่นที่ 2 ให้กับไทย ส่วนรุ่นจำนวน และระยะเวลาจัดส่งจะมีการเจรจากันต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม. ไฟเขียวแลกเปลี่ยน วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ไทย-ภูฏาน 1.3-1.5 แสนโดส
- อนามัยโลก ระบุ ฉีด วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วย ‘ไฟเซอร์/โมเดอร์นา’ ทำได้ ‘ในบางสถานการณ์’
- ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ เปิดผลวิจัยล่าสุด ชี้ ปลอดภัยเทียบเท่าชนิด ‘mRNA’