COVID-19

เข้มคลินิก รพ.เอกชน เปิดบริการตรวจโควิด-19 ห้ามตั้งที่สาธารณะ หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่

สบส. คุมเข้มคลินิก รพ.เอกชน เปิดบริการตรวจโควิด-19 ห้ามตั้งในพื้นที่สาธารณะ ต้องเป็น One stop service ตั้งแต่การคัดกรอง จนสิ้นสุดการรักษา ป้องกันเกิดคลัสเตอร์ใหม่จากสถานพยาบาล

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิก จึงเข้ามาให้บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 และตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อโรคโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test Kit เพื่มมากขึ้น

ตรวจโควิด-19

ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อีกทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้ได้รับบริการตรวจคัดกรองจากสถานพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งภาครัฐก็ขอขอบคุณสถานพยาบาลเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วม ในการฝ่าฟันวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 โดยในระยะเวลาที่ผ่านมาโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม พบข้อร้องเรียนจากประชาชน เกี่ยวกับคลินิกที่มีการตั้งจุดบริการตรวจโควิด-19 ในพื้นที่สาธารณะ จนประชาชนโดยรอบเกิดความกังวลว่า จะเกิดการสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกิดคลัสเตอร์โควิด 19 จากจุดบริการของคลินิก

ดังนั้น เพื่อป้องกันกรม สบส.ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการ คุมเข้มมาตรฐานบริการตรวจคัดกรอง และตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 มีการจัดตั้งจุด ให้ถูกต้อง ปลอดภัย ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

สำหรับการตั้งจดคัดกรอง ต้องตั้งในรูปแบบ One stop service ตั้งแต่การคัดกรอง จนสิ้นสุดการรักษา แยกจากจุดบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ทั่วไป ห้ามปะปนกับจุดให้บริการอื่นๆของคลินิก หรือพื้นที่สาธารณะ อย่างทางเท้าด้านหน้าคลินิกโดยเด็ดขาด หากกรม สบส.ตรวจพบว่าคลินิกแห่งใดปฏิบัติไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ก็จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส.กล่าวต่อว่า บทกำหนดโทษของสถานพยาบาลเอกชนที่ตั้งจุดให้บริการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ไม่เหมาะสม จนอาจจะก่อให้เกิดการแพร่กระจายของโรคนั้น ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีความผิดในฐานไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีที่พบว่าผู้ให้บริการมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ให้บริการรายดังกล่าว จะถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังอาจมีความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากพบเห็นการจัดตั้งจุดบริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ของคลินิก ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายในเขตกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426 และในส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo