“คุณหญิงสุดารัตน์” เรียกร้อง บิ๊กตู่ มีอำนาจพิเศษเต็มมือ โปรดใช้อำนาจเพื่อประชาชน ปลดล็อกวัคซีน กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น บริษัทเอกชน จัดซื้อวัคซีนโควิด เพื่อเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” เรียกร้องรัฐบาล ปลดล็อกวัคซีน ให้ท้องถิ่น บริษัทเอกชน จัดซื้อวัคซีนได้ ย้ำ ทุกนาทีมีค่าสำหรับชีวิตคนไทย นายกฯต้องใช้อำนาจพิเศษที่มีล้นมือ ทำเพื่อประชาชน โดยระบุว่า
“ดิฉันขอเรียกร้องให้รัฐบาล #ปลดล็อกวัคซีน กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนโควิด เพื่อช่วยกระจายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เร็วขึ้น ตามที่พรรคไทยสร้างไทย ได้เรียกร้องมาตั้งแต่เดือนมกราคม
รวมทั้งสนับสนุนให้บริษัทเอกชน ได้สั่งซื้อวัคซีนมาฉีดให้พนักงาน ตามข้อเสนอของ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. โดยอย่าอ้างว่าติดกฎระเบียบต่าง ๆ เพราะติดก็ต้องแก้ ในเมื่อนายกมีอำนาจพิเศษเต็มมือ “โปรดใช้อำนาจที่มีเพื่อประชาชน”
ดิฉัน พร้อมด้วยคุณอุดมเดช รัตนเสถียร ได้ไปให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางสาธารณสุข ของเทศบาลนครนนทบุรี ที่นำโดย นายกสมนึก ธนเดชากุล ในการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม ให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครนนทบุรี ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 110,000 โดส จากสถาบันจุฬาภรณ์ และสภากาชาดไทย โดยจัดฉีดให้ประชาชนวันละ 2,000 คน
ท่านนายกสมนึก และเทศบาลนครนนทบุรี ได้จัดระบบการฉีดวัคซีนอย่างดีมาก โดยแบ่งประชาชนเป็นรอบ ๆ ไม่แออัด และมีแพทย์ฉุกเฉินไว้เตรียมดูแลอย่างครบถ้วน
ดิฉันขอแสดงความชื่นชมต่อท่านนายกสมนึก และทีมงานที่ได้ทุ่มเทในการดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งการที่ท้องถิ่นสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชน จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะจะทำให้มีการกระจายวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
ดิฉัน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบาย ตามที่ได้เสนอไป ตั้งแต่เดือนมกราคม ให้รัฐบาลอนุญาตให้ท้องถิ่น ได้ช่วยจัดซื้อวัคซีนคุณภาพดีที่ WHO รับรอง จากเงินสะสมของท้องถิ่นเอง เพราะถ้าคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง รัฐบาลควรอนุญาตให้ท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่มีเงินสะสมจำนวนหลายแสนล้านบาท สามารถจัดซื้อวัคซีนได้ รวมทั้งการสนับสนุนให้ภาคเอกชนได้สั่งซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ของแต่ละบริษัท ตามที่ กกร. เสนอมา
เพราะขณะนี้ประเทศส่วนใหญ่ในโลกเริ่มฟื้นตัว เปิดการทำธุรกิจ หลังจากระดมฉีดวัคซีน ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ จากประเทศไทย แต่หลายโรงงานไม่สามารถผลิตสินค้าได้ เพราะมีการระบาดของโควิดจนต้องปิดโรงงาน ทำให้เสียโอกาสในการทำรายได้เข้าประเทศ
รัฐบาลจึงควรปรับนโยบายให้ท้องถิ่น และภาคเอกชน สามารถนำเข้าวัคซีนได้ ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการจัดซื้อก็ต้องผ่านการตรวจและควบคุมจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตามกฎหมายอยู่แล้ว
ในยามวิกฤติเช่นนี้ เราต้องระดมกำลังของทุกภาคส่วนมาช่วยกัน เพื่อให้ #ประชาชนรอดก่อน การที่ท้องถิ่น และภาคเอกชนมาช่วยจัดซื้อวัคซีน และช่วยในการกระจายวัคซีน ย่อมมีแต่ผลดีที่เกิดขึ้นกับประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนรวดเร็วและทั่วถึง
“ทุกนาทีมีค่าสำหรับชีวิตคนไทย” โปรดรวมพลังทุกฝ่ายมาช่วยกันสู้วิกฤติครั้งนี้ ให้คนไทยและประเทศไทยรอดให้ได้เสียก่อน
ดิฉันจึงขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนนโยบาย เพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยทุกคน”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สุดารัตน์’ ประกาศนำ 7 แสนรายชื่อ ยื่นฟ้อง ‘ประยุทธ์’ พรุ่งนี้ ฟาด รวบอำนาจไว้คนเดียว แต่กลับทำเสียหายหนัก
- ‘สุดารัตน์’ จี้เยียวยา ‘เราชนะ’ เงินสด อย่าตั้งเงื่อนไขเหมือนเป็นการสงเคราะห์
- ของขึ้น! ‘คุณหญิงสุดารัตน์’ ตอกกลับรัฐบาล เตือนตัวเองทำงานให้คุ้มภาษี