COVID-19

ถอนงานวิจัย ‘ฟ้าทะลายโจร’ เหตุหลักฐานยังไม่พอ ต้องรอวิจัยกลุ่มใหญ่ขึ้น

“หมอสันต์” เผย นักวิจัยได้ขอถอนงาน ที่กำลังรอตีพิมพ์ ประเด็น “ฟ้าทะลายโจร” ใช้รักษาโควิดแล้วมีผลดี ลดการเกิดปอดอักเสบได้ เหตุหลักฐานยังไม่พอ ต้องรอวิจัยซ้ำกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจ และผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์”  โดยระบุว่า ทีมผู้วิจัย (ชาวไทย) ซึ่งได้ทำวิจัยแบบสุ่มตัวอย่าง แบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ที่สรุปผลได้ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิด-19 แล้วมีผลดี ลดการเกิดปอดอักเสบได้ ได้ขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับของตนเอง ที่รอตีพิมพ์ กลับคืนจากคลังวารสารรอตีพิมพ์ (medRxiv) ด้วยเหตุผลว่ามีความผิดพลาดในการคำนวณค่านัยสำคัญ ของความแตกต่าง (p-value) จึงของดการเผยแพร่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการนำผลวิจัยไปใช้ด้วยสำคัญผิด

ในบทความที่ลงรายละเอียดไว้บนเว็บไซต์ https://drsant.com/ นั้น นพ. สันต์ ระบุว่า

shutterstock 2018409119

เมื่อวานนี้ ทีมผู้วิจัย (ชาวไทย) ซึ่งได้ทำวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ที่สรุปผลได้ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิด19 แล้วมีผลดี ลดการเกิดปอดอักเสบได้ ได้ขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับของตนเอง ที่รอตีพิมพ์ กลับคืนจากคลังวารสารรอตีพิมพ์ (medRxiv)

ด้วยเหตุผลว่า มีความผิดพลาดในการคำนวณค่านัยสำคัญ ของความแตกต่าง (p-value) จึงของดการเผยแพร่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการนำผลวิจัยไปใช้ด้วยสำคัญผิด

เจาะลึกลงไปอีกหน่อยก็คือในงานวิจัยนั้นรายงานว่า

  • กลุ่มผู้ใช้ฟ้าทลายโจร 29 คน เป็นปอดอักเสบ 0 คน
  • กลุ่มที่ใช้ยาหลอก 28 เป็นปอดอักเสบ 3 คน
  • คำนวณนัยสำคัญของความแตกต่างได้ p=<0.039 ซึ่งเป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ (ตัดกันที่ p=<0.05)  แต่หากคำนวณอย่างถูกต้องแท้จริงแล้วค่านัยสำคัญจริงๆคือ p=0.1

แปลไทยให้เป็นไทยก็คือ จะต้องเปลี่ยนคำสรุปว่า “ยังสรุปไม่ได้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจร ลดปอดบวมได้ แตกต่างจากใช้ยาหลอกหรือไม่” 

ท่านผู้อ่านอาจคิดแย้งว่า

“..อ้าว..ได้ไง ก็กลุ่มหนึ่งเป็นปอดบวมสามคน อีกกลุ่มหนึ่งไม่เป็นเลย ต่างกันเห็น ๆ จะมาสรุปว่า ไม่ต่างกันได้อย่างไร”

ใจเย็น ๆ ครับคุณพี่ เรากำลังเล่นกับวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นระบบความเชื่อ ที่ให้ความสำคัญกับโอกาสเป็นไปได้ (probability) และนัยสำคัญของความแตกต่าง (significantly difference) โดยกำหนดกฎกติกามารยาทร่วมกันขึ้นมาว่า หากค่า p ต่ำกว่า 0.05 ให้ถือว่าเป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ หากต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ ก็ถือเอาแบบสมมุติว่า คือ ไม่แตกต่างกัน เออ..งงแมะ

“..แล้วค่า p นี้มันได้มาอย่างไร เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมจึงคำนวณผิดได้” 

ใจเย็นครับ ตอบว่า สมัยนี้ค่า p ได้มาจากการจิ้มค่าต่าง ๆ ที่ได้จากการวิจัยเข้าไปในคอม แล้วคอมก็คำนวณตามสูตรออกมาให้ หากได้ค่าผิด ไม่ได้หมายความว่า คอมคำนวณผิดนะ แต่หมายความว่า ..จิ้มผิด ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เดี๋ยวต้องขอถอนต้นฉบับกลับ เดี๋ยวต้องเขียนคำแก้ไขไปตีพิมพ์ต่อท้าย นี่เป็นวิถีชีวิตปกติของนักวิจัย

83829430 2144728388963191 6883591849630498816 n
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

“..แล้วทำอย่างไรจะให้มันเกิดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญขึ้นมาได้ละ”

ตอบว่า ก็ต้องทำวิจัยใหม่ โดยขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น

วิธีการรักษาที่ให้ผลแตกต่างกัน หากทำวิจัยเปรียบเทียบ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเล็ก จะมองไม่เห็นความแตกต่างนั้น แต่หากกลุ่มตัวอย่างใหญ่ขึ้น ก็จะเห็นความแตกต่างนั้นโดยง่าย เพราะค่า p-value ออกแบบไว้ชดเชยความเล็กของกลุ่มตัวอย่าง ยิ่งกลุ่มตัวอย่างเล็ก ยิ่งยากจะเห็นความแตกต่างผ่านค่า p-value

แต่ในทางกลับกัน หากใช้กลุ่มตัวอย่างใหญ่เว่อร์เกินความจำเป็น ก็จะกลายเป็นความเซ่อทางการวิจัย คือเสียเงิน เสียเวลา และเดือดร้อนอาสาสมัครมาก โดยใช่เหตุ

ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่ทำไมจิ้มคอมผิด แต่ประเด็นอยู่ที่ มันจำเป็นต้องทำการวิจัยนี้ซ้ำใหม่ด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะตราบใดที่โควิด-19 ยังมี โดยวัคซีนยังไม่มา เรื่องนี้ก็จะยังคงเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย และเป็นเรื่องระดับชาติ เพราะฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญ

หากฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้จริง เราก็จะได้อาศัยฟ้าทะลายโจร นำพาชาติให้พ้นภัย (พูดเหมือนจอมพลตราไก่เลย)

ตัวหมอสันต์เอง กำลังดูลาดเลา ที่จะลุ้นให้เกิดงานวิจัยนี้ โดยกำลังพูดคุยหารือกับ ผอ.รพ.มวกเหล็ก ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 4 (สระบุรี) และเซียนด้านการวิจัยทางการแพทย์ท่านหนึ่งในเมืองหลวง

เรื่องสปอนเซอร์ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายในการวิจัยนั้น ไม่หนักใจ แต่เกรงใจที่ต้องไปรบกวนน้อง ๆ ที่หน้างาน ซึ่งทุกวันนี้ งานรูทีนนขาก็อ้วกรับประทานกันอยู่แล้ว จะพูดกับแต่ละคนทีนึง ก็ต้องรอท่านกลับเข้าบ้านกันก่อน ซึ่งก็ไม่เคยต่ำกว่าสามทุ่ม

แต่แม้จะเกรงใจ ก็คิดว่าจะเดินหน้าทำ เพราะหากไม่ทำ เราก็จะยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก กันอยู่ตรงนี้ไปไหนต่อไม่ได้ ส่วนจะทำวิจัยครั้งนี้ได้สำเร็จหรือไม่ ก็ต้องตามลุ้น กันต่อไป

ในระหว่างที่งานวิจัยใหม่นี้ยังไม่ออกมา ชาวไทยเราก็ต้องอาศัยข้อสรุปใหม่ล่าสุดที่ว่า “ยังไม่ทราบว่าฟ้าทะลายโจรลดปอดบวมในคนไข้โควิด-19ได้แตกต่างจากยาหลอกหรือไม่” ไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ และที่หมอสันต์เคยบอกว่าหลักฐานวิทยาศาสตร์สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาโควิดตอนนี้มีมากพอแล้วนั้น ก็ต้องถอนคำพูด และขอใช้คำพูดใหม่ว่า

“หลักฐานวิทยาศาสตร์สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดตอนนี้ยังมีไม่พอ ต้องรอการวิจัยซ้ำด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo