COVID-19

ฉีดไฟเซอร์ ปรับเงื่อนไขใหม่แล้ว บุคลากรด่านหน้า ไม่เคยรับวัคซีน-ฉีดเข็มแรก ได้ด้วย

จัดสรรใหม่ ฉีดไฟเซอร์ บุคลากรด่านหน้า จากเดิมต้องฉีดเงื่อนไขใหม่! วัคซีนไฟเซอร์ บุคลากรด่านหน้าไม่เคยรับวัคซีน หรือฉีดแล้ว 1 เข็มสามารถรับได้ จากเดิมให้เฉพาะบูสเตอร์โดส กลุ่มฉีดซิโนแวค 2 เข็ม

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ (Pfizer) แถลงข่าวกรณีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ผ่านระบบออนไลน์ ว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดมีมติเห็นชอบกรณีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ใหม่จากเดิมที่มีมติ ฉีดไฟเซอร์ บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า เฉพาะบูสเตอร์โดส กลุ่มฉีดซิโนแวค 2 เข็ม เท่านั้น

ฉีดไฟเซอร์

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องบุคลากรสาธารณสุข บุคลากรด่านหน้าที่จะได้รับวัคซีน ซึ่งขอยืนยันว่า ครอบคลุมผู้ปฏิบัติงาน ทั้งที่เป็นแพทย์ด่านหน้า และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับโควิด19 ที่มีความเสี่ยงโดยตรง

สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐบริจาคให้ไทย 1.5 ล้านโดส จัดสรรเป็น 4 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ เป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันรวม 700,000 โดส

กลุ่มที่ 2 จัดสรรให้จังหวัดที่มีการระบาดที่อยู่ในจังหวัดควบคุมสุงสุดและเข็มงวด ณ วันจัดสรร 13 จังหวัด มี 645,000 โดส

กลุ่มที่ 3 ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย หรือคนไทยที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยกระทรวงต่างประเทศจะเสนอรายชื่อมา ประมาณ 150,000 โดส

กลุ่มที่ 4 ทำการศึกษาวิจัย 5,000 โดส และอีกกว่า 3,450 โดสในกรณีควบคุมการระบาดของสายพันธุ์เบตา ที่อาจใช้วัคซีนตัวอื่นได้ยาก

ขณะที่ กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัย ที่มาช่วยงานหรือพนักงานเก็บศพ อยู่ในกลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข อยู่ในโควตา 7 แสนคน ดังนั้น ตัวเลขวัคซีน 7 แสนโดส พิจารณาแล้วว่าตัวเลขจะพอดีกับการจัดสรรรอบนี้ หากมีเหลือก็ต้องมีการพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป

สธ.

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้ได้มีการส่งมอบอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาบ สำหรับวัคซีนบริจาคของสหรัฐจำนวน 1,503,450 โดส ซึ่งตัวเลขนี้แถลงโดยสถานทูตสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันตัวเลขตามนี้

อย่างไรก็ตาม จากมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เรื่อง คำแนะนำการให้วัคซีนโควิด19 ของไฟเซอร์ ในบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จะหมายรวมถึงเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทุกคน ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด จากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด

“ขอย้ำว่า การฉีดวัคซีนโควิด ยังเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลใหม่ ๆ ออกมาตลอดเวลา ซึ่งเราเพิ่งฉีดวัคซีนไม่ถึงปี เพราะฉะนั้นภูมิต้านทานจะลดลงช่วงไหนจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลวิชาการ ซึ่งมีข้อมูลมาตลอด อีกทั้งจากที่มีการกลายพันธุ์ ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ฉีดวัคซีนไปเกือบทุกชนิดมีการลดลง”นพ.โอภาส กล่าว

ดังนั้น วิธีการเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงจำเป็นต้องกระตุ้นเข็ม 3 ที่เรียกว่า บูสเตอร์โดส โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ต้องมีภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไปได้

เงื่อนไขการฉีดไฟเซอร์ ปรับใหม่ ดังนี้

1. บุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ กระตุ้น 1 เข็ม

2. บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใด ๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลักตามที่เข็มแรกกำหนด เช่น เข็มแรกกำหนดว่า ให้ฉีดเข็ม 2 ใน 3 สัปดาห์ก็เป็นไปตามนั้น

3. บุคลากรที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใด ๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์

4. บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้รับวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน

ไฟเซอร์1

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้ง กุมารแพทย์ อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา ด้านวัคซีน ด้านเวชศาสตร์ป้องกันมีคำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคยได้รับวัคซีน ดังต่อไปนี้

1. วัคซีนซิโนแวค เข็มแรก และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 หรือสูตรสลับไขว้ หรือ

2. วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม คือ ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯไป 1 เข็มและมีกำหนดรับแอสตร้าฯเข็ม 2 หรือ

3.วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และได้รับเข็มกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ 1 เข็ม

สำหรับ 3 กลุ่มนี้ คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาว่า ขณะนี้ยังไม่แนะนำให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น เพราะหลังจากฉีดวัคซีนทั้ง 3 แบบ ภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับสูงเพียงพอ เพราะฉีดไม่นาน และยังไม่มีข้อมูลวิชาการที่จะสนับสนุนว่า จะฉีดวัคซีนกระตุ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ โดยให้ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ และจะมีการพิจารณาข้อมูลวิชาการ และดำเนินการให้วัคซีนไฟเซอร์ตามข้อมูลวิชาการ และจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามาเพิ่มในระยะต่อไป

ด้าน พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ขอบคุณ กระทรวงสาธารณสุข และทีมงานวัคซีน ที่กรุณาปรับข้อมูล จนบุคลากรด่านหน้าได้วัคซีนเป็นส่วนใหญ่ และขอขอบพระคุณบุคลากรด่านหน้า ที่ไม่ใช่แค่แพทย์ แต่ทุกคนที่ช่วยกันต่อสู้โควิด19 ที่ผ่านมา และในฐานะ 7 สภาวิชาชีพ ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ฟังเสียงทุกฝ่าย ทำให้การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะมีระบบแท็กตาม

ขณะเดียวกันก็เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และมีการติดตามบุคลากรให้มีการลงทะเบียน 3 กลุ่ม หากมีข้อมูลวิชาการ ก็จะได้รับไฟเซอร์อย่างแน่นอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo