จากกรณีที่รัฐบาลสหรัฐ บริจาควัคซีนต้านโควิด “ไฟเซอร์” ให้กับไทยจำนวน 154,000 ล้านโดสนั้น ทำให้เกิดการจับตามองกันอย่างมากว่า วัคซีนชนิดเชื้อเป็น mRNA ที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าชนิดอื่น ๆ ที่ไทยใช้อยู่นั้น จะถูกนำไปใช้อย่างไร
กลุ่มเป้าหมายรับวัคซีน “ไฟเซอร์”
กลุ่มเป้าหมายที่คณะทำงานด้านบริหารจัดการ การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำหนดว่า จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 1.54 ล้านโดส จะมี 4 กลุ่มด้วยกัน และจะมีการกันสำรองไว้ในส่วนกลางจำนวน 40,000 โดสด้วย
- บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยโควิดโดยตรง เป็นบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 จำนวน 700,000 โดส
- กลุ่มเปราะบาง เฉพาะ 13 จังหวัดควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังอายุ 12 ปีขึ้นไป และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป จำนวน 645,000 โดส
- ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เป็นกลุ่มสูงอายุ, 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และคนท้อง 12 สัปดาห์ ไปจนถึงคนไทยที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องฉีดไฟเซอร์ เช่น นักเรียน และนักศึกษา จำนวน 150,000 โดส
- ทำการศึกษาวิจัย โดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม จำนวน 5,000 โดส
สำหรับไทม์ไลน์การบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์นั้น จะต้องนำวัคซีนที่ได้มาเข้าเก็บในคลังด้วยอุณหภูมิติดลบ 70-90 องศา ที่บริษัทซิลลิค ฟาร์มา พร้อมส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนที่ผลการตรวจสอบจะออกมาวันที่ 2 สิงหาคม
จากนั้นวันที่ 3-4 สิงหาคม บริษัทจึงจะทำการแพ็กวัคซีนเพื่อจัดส่ง และภายในวันที่ 5-6 สิงหาคม วัคซีนลอตแรก ทั้งเข็มกระตุ้นของบุคลากรทางการแพทย์ และเข็มแรกสำหรับกลุ่มเสี่ยงจะถึงหน่วยบริการ ส่วนวันที่ 7-8 สิงหาคม จะเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลที่เตรียมพร้อมการฉีด
วันที่ 9 สิงหาคม หน่วยบริการต่าง ๆ จะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ก่อนที่กลางเดือน สิงหาคมจะจัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือนสิงหาคมต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แจงแผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ‘บิ๊กตู่’ ย้ำเน้นบุคลากรการแพทย์ด่านหน้า
- ‘หมอเฉลิมชัย’ รวม 11 เรื่องควรรู้ ‘วัคซีนไฟเซอร์’ ที่ใครก็อยากฉีด
- ‘หมอโอภาส’ ไขข้อข้องใจ ทำไม ‘ไฟเซอร์’ ต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีด