COVID-19

รพ.สนามธรรมศาสตร์ ลั่นสัปดาห์นี้ผู้ป่วยใหม่ไม่ทรงตัวหรือลดลง พวกเราจะพ่ายแพ้ราบคาบ!!

โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ชี้แจงการไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยโควิดอาการวิกฤติ พร้อมกังวลตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันไม่ทรงตัว หรือลดลงบ้างตอนสิ้นเดือน คงทำให้เห็นได้ ว่า สงครามคราวนี้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ อย่างราบคาบของพวกเรา

เพจโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความ ระบุว่าวันเสาร์ที่ 24 ก.ค. วันที่ 105 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ วันที่ผู้ป่วยใหม่ทั้งประเทศอยู่ที่ 14260 คน และมีผู้เสียชีวิต 119 คน

เช้านี้เราได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตในโรงพยาบาลอีกสามคน และมีเรสซิเดนท์ปีสองคนนึงกับเจ้าหน้าที่ของเราอีกหนึ่งคนที่มีผลการตรวจเชื้อเป็น + ต้องรับเข้ามาเป็นผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาล  จากจำนวนผู้เข้ารับการตรวจ swab ทั่งหมด 201 คน มีผลเป็นบวก41 คน ตัวเลขบวก 20% นี้ ถือเป็นตัวเลขระดับกลางๆ ไม่สูงมากสำหรับอาทิตย์นี้

รพ.สนามธรรมศาสตร์ 3

วันนี้หอผู้ป่วยอุบัติเหตุ และฉุกเฉิน ที่ปรับปรุงให้มีโซน Negative pressure ขนาด 150 ตรม. เปิดใช้งานได้แล้วเป็นวันแรก แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ER ดูมีขวัญกำลังใจดีขึ้นบ้าง และดูแววตาแล้ว เห็นความมุ่งมั่น มั่นใจ และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศึกหนักที่รออยู่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ซึ่งท่าทางจะหนักมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า  เพราะห้องฉุกเฉินคือประตูหลักที่จะคัดกรองคนไข้ทุกคนที่จะเข้าไปในสู่หอผู้ป่วยใน ขณะที่มีวิกฤติเช่นนี้

ถ้าหาก ER เป็นห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ก็อาจจะนับได้ว่าห้องคลอดก็เป็นห้องฉุกเฉินของแผนกสูตินารีเวชของ รพ.ด้วยเช่นกัน วันๆ เรามีผู้ป่วยเข้ามาคลอดอย่างเร่งด่วนหลายราย บางวันอาจจะใกล้ สิบเคสด้วยซำ้ และในระยะหลัง เราพบว่าในการคลอดฉุกเฉินเกินครึ่งหนึ่งของผู้คลอดมีข้อบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นผู้ติดเชื้อ หรือมีผลตรวจเชื้อภายหลังเป็นบวก ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเราจึงจะเร่งปรับปรุงห้องคลอดสองห้องในวอร์ดให้เป็น Negative pressure LR โดยทันที โดยจะใช้เวลาปรับปรุงประมาณสี่วัน เพื่อจะปกป้องบุคลากรของเราจากการทำหัตถการช่วยชีวิตผู้ป่วยในเคสฉุกเฉิน ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในสถานการณ์ที่มีการระบาดอย่างรุนแรงเช่นนี้

รพ.สนามธรรมศาสตร์ e1627202523135

จนถึงขณะนี้ บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกลายเป็นผู้ติดเชื้อไปแล้วเกือบ 100 คน และถูกกักตัวเป็น PUIรวมสะสมเกือบ 500 คนแล้ว จากบุคลากรทั้งหมดที่เรามีอยู่สามพันเศษ เพื่อจะยืนหยัดรักษาแนวรับของเรา และเพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้คนเอาไว้ให้ได้ เราจำเป็นต้องปกป้องดูแลกำลังรบของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้

ที่ รพ.สนาม วันนี้มีผู้ป่วยใหม่จาก รพ.ธรรมศาสตร์รับ refer เข้ามา 29 คน ขณะที่เราส่งผู้ป่วยที่หายกลับบ้านได้เพียง 19 คน ตัวเลขสุทธิของคืนนี้จึงมีผู้ป่วยโควิดพักอยู่กับเรา 391 คน เราเพิ่งจะปรารภไปเร็วๆนี้ว่า เราจะเฉลิมฉลองการดูแลผู้ป่วยได้ถึง 2000 คน เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง  แต่มาถึงวันนี้ ผู้ป่วยสะสมที่รพ.สนามได้เพิ่มขึ้นจนใกล้จะถึง 3,400 คนแล้ว  เราไม่อยากเห็นตัวเลข 5,000 เลยนะ

สำหรับโครงการเตียงทิพย์ หรือ Home Isolation วันนี้เราเพิ่มพยาบาลเข้ารับผิดชอบดูแลโครงการอีกหกคน  เพื่อให้ทันกับจำนวนผู้ป่วยที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ป่วยในโครงการนี้มีสะสมถึง 400 คน แล้วในขณะที่ผู้ป่วย active ที่ต้องติดตามดูแลในโครงการมีมากกว่า 250 คน ในแต่ละวัน  เนื่องจากโครงการนี้เป็นหนทางเดียวที่จะป้องกันการล่มสลายของระบบโรงพยาบาลที่จะไม่สามารถรับผู้ป่วยที่เต็มล้นได้ ดังนั้นพวกเราจึงตั้งใจให้ความสำคัญและใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยโควิดเข้าในโครงการให้เร็วที่สุดให้ทันการติดเชื้อใหม่วันละกว่าหมื่นคนอย่างที่เป็นอยู่ในสิ้นเดือนนี้ เราคาดหวังจะเห็นจำนวนผู้ป่วยในโครงการอยู่ที่ระดับมากกว่าหนึ่งพันคนให้ได้

วันสองวันนี้มีคนสอบถามมามากในเรื่องประกาศของโรงพยาบาลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ การไม่ใส่ท่อช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยโควิดอาการวิกฤติ ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และเสนอว่า ควรจะดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ในระบบการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น

รพ.สนามธรรมศาสตร์ 2 e1627202483524

เราอยากจะอธิบายว่า การดูแลผู้ป่วยวิกฤติที่มีโอกาสรอดชีวิตต่ำมาก โดยการไม่ใส่ท่อช่วยหายใจซึ่งจะมีผลทำให้คนไข้ต้องทรมาน ไม่ปั๊มหรือช็อคหัวใจ หรือไม่เจาะเส้นเลือดดำที่คอเพียงเพื่อช่วยยื้อชีวิตผู้ป่วยไปอีกระยะหนึ่ง หากแต่เลือกใช้การดูแลรักษาแบบประคับประคองหรือ Palliative care โดยการให้ออกซิเจน ให้มอร์ฟีน หรือยาระงับความรู้สึกนั้น เป็นกระบวนการดูแลผู้ป่วยวิกฤติที่ปฏิบัติกันอยู่เป็นปกติในผู้ป่วยระยะสุดท้ายของโรงพยาบาลทั้งหลายอยู่แล้ว  หากว่าได้รับความยินยอมจากครอบครัวผู้ป่วย เพียงแต่ในสถานการณ์โควิดในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เรามีผู้ป่วยใน stage นี้มากขึ้น อาจจะถือได้ว่าเป็นสิบเท่าของกรณีปกติหรือมากกว่า และในสถานการณ์ที่มีเตียง ICU อยู่จำกัดและมีผู้ป่วยวิกฤติรอเข้ารับการรักษาในเตียงไอซียูอีกมากมาย การพยายามช่วยยื้อชีวิตผู้ป่วยออกไปได้บ้าง อาจจะทำให้เกิดภาวะทุกข์ทรมานทั้งต่อตัวผู้ป่วยและคนในครอบครัว และอาจจะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การขาดแคลนเตียง ICU อย่างร้ายแรงที่เป็นอยู่ได้ ดังนั้น เราจึงต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานทางวิชาการให้แพทย์ผู้ปฏิบัติงานทราบโดยทั่วไปถึงเกณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบ Palliative careของโรงพยาบาล

เรายืนยันได้อย่างหนักแน่นด้วยว่า โดยจรรยาบรรณของวิชาชีพ แพทย์ทุกคนจะพยายามช่วยเหลือรักษาชีวิตผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ และจะใช้ทุกวิธีการที่เป็นไปได้โดยไม่มีข้อยกเว้น  การจะนำผู้ป่วยเข้ารักษาในระบบ Palliative care จะต้องเป็นไปโดยมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจน โดยการหารือของแพทย์หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะต้องเป็นไปโดยความยินยอมพร้อมใจของครอบครัวผู้ป่วย หรือเป็นไปตามเจตนาที่ผู้ป่วยได้แสดงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น

รพ.สนามธรรมศาสตร์ 1 e1627202499429

อีกเพียงสัปดาห์เดียวจะถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะเป็นจุดพีคของการระบาดใหญ่ในเวฟที่ 4 นี้ในความเชื่อของพวกเรา  ถ้าตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันจะไม่ทรงตัวอยู่แถวๆ 13,000-15,000 หรือลดลงบ้างตอนสิ้นเดือน และกลับกลายเป็นว่า จะมีตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแทน นั่นก็คงทำให้เห็นได้เลยว่า สงครามคราวนี้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ อย่างราบคาบของพวกเรา และของระบบสาธารณสุขของเรา ด้วยเช่นกัน  เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า แต่พวกเราก็พร้อมแล้วที่จะยืนเป็นแถวหน้า เพื่อจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์นั้น และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือสงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างไร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight