“กระทรวงสาธารณสุข” เตรียมเสนอแนวทางฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิดให้ “นายกรัฐมนตรี” เห็นชอบพรุ่งนี้ หากไฟเขียวจะเริ่มดำเนินการได้ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้มีการประชุมถึงแนวทางการให้วัคซีนสลับชนิดกันอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลได้ขอให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างรอบคอบ ภายหลังมีคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ตลอดจนการประชุมหารือของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในที่ประชุมยังยืนยันมติเดิมในเรื่องการให้วัคซีนสลับชนิดที่สามารถดำเนินการได้ โดยจะมีการนำเสนออีกครั้งในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.)
พิจารณาอย่างรอบคอบ
“พอผู้ใหญ่ทักมา ว่าให้เราดูข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ เพราะ WHO ออกมาพูด ซึ่งคณะกรรมการวิชาการ ก็นำเสนอต่อที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข และบ่ายนี้ ก็ประชุม ศบค.ของกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีมติในทิศทางเดิม คือควรได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า โดยห่างกัน 3-4 สัปดาห์ จะเสนอ ศบค.พรุ่งนี้ คาดว่าจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ หลายคณะกรรมการที่เห็นชอบตรงกันนี้ จะเริ่มดำเนินการได้ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป” นพ.โสภณ กล่าว
ส่วนที่หน่วยบริการวัคซีนบางแห่ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดไปแล้วนั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สื่อสารไปแล้วว่า แนวทางดังกล่าวไม่ได้ขัดกับมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพียงแต่เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบอีกครั้ง ซึ่งภายหลังคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ก็ยังคงยืนยันแนวทางการฉีดวัคซีนตามมติเดิม
ดังนั้นเมื่อมีการนำมติดังกล่าวเข้าที่ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ หากนายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว กระทรวงฯ จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกที ส่วนหน่วยที่ดำเนินการไปแล้ว หรือดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าดำเนินการตรงกับที่คณะกรรมการโรคติดต่อได้ให้มติไว้ตั้งแต่แรก
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น คณะกรรมการวิชาการได้พิจารณาแล้ว ยังใช้ได้ 2 วิธี คือ
- วิธีที่ 1 ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า
- วิธีที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า
ซึ่งในวิธีที่ 2 นี้เหมาะจะใช้กับผู้สูงอายุมากกว่า แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงอายุจะไม่สามารถฉีดวัคซีนซิโนแวคได้ เพราะขณะนี้ไม่มีข้อจำกัดนั้นแล้ว เป็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนในแต่ละพื้นที่ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยอดฉีดวัคซีนสะสมทั่วไทย 13.53 ล้านโดส ‘ชาวปัตตานี’ แห่ฉีดวัคซีน หลังคนติดโควิดพุ่งไม่หยุด
- คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 10 คณะ ออกแถลงการณ์หนุน ฉีดวัคซีนสลับชนิด-บูสเตอร์โดส ด่านหน้า
- ‘บิ๊กตู่’ ขอให้เชื่อมั่นวัคซีนที่รัฐบาลจัดหา ชี้ WHO รับรอง ใช้แพร่หลายทั่วโลก