COVID-19

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 10 คณะ ออกแถลงการณ์หนุน ฉีดวัคซีนสลับชนิด-บูสเตอร์โดส ด่านหน้า

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 10 คณะ  รวมพลังออกแถลงการณ์ สนับสนุนฉีดวัคซีนสลับชนิด และบูสเตอร์ โดส บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า เชื่อมั่นผลการศึกษา หวังป้องกันเดลตา แพร่เร็ว

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 10 คณะ ในฐานะคณะที่ปรึกษา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ใน ศบค. ออกแถลงการณ์สนับสนุนมาตรการฉีดวัคซีนสลับชนิด และวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยเห็นว่า เป็นมติที่ควรได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้

ฉีดวัคซีนสลับชนิด

1. เชื้อก่อโรคโควิด19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานว่า ในกรุงเทพมหานครมีสายพันธุ์เดลตาเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดพบว่ามีสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 69 จากข้อมูลสำรวจรายสัปดาห์ ทั้งนี้ สายพันธุ์เดลตาแพร่ได้เร็ว อัตราตายสูง และดื้อต่อวัคซีนที่พัฒนาจากสายพันธุ์เดิม

2. ผลการศึกษาภูมิคุ้มกันชนิด Neutralizing Antibody ต่อสายพันธุ์เดลตา พบว่า วัคซีนแอสตร้าฯ เข็มแรก และวัคซีนซิโนแวค สองเข็ม เพียงอย่างเดียว กระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ไม่ดี

3. วัคซีนแอสตร้าฯ 1 เข็ม ยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ไม่สูงพอจะกันป่วยหนักจากสายพันธุ์เดลตา ทำให้ประเทศอังกฤษ ประกาศร่นระยะเวลา การฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ 2เข็ม จาก 12 สัปดาห์ เหลือ 8 สัปดาห์

4. วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ไม่สูงพอ ที่จะกันป่วยหนักจากสายพันธุ์เดลตาได้ ทำให้มีรายงานบุคลากรทางการแพทย์ เสียชีวิตหลายร้อยราย ในประเทศอินโดนีเซีย

5. ในระบบการให้วัคซีนของประเทศไทย มีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 แบบสลับชนิด โดยเข็มแรกฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยวัคซีนแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่สอง จำนวน 1,102 ราย เนื่องจากสาเหตุบางประการ ทำให้ไม่สามารถรับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่สองได้ เช่น เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1

โดยทั้ง 1,102 รายนี้ ได้รับการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ในระบบของกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหรือเสียชีวิต และยังไม่มีรายงานการติดเชื้อก่อโรคโควิด ในคนกลุ่มนี้ จากฐานข้อมูลของกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564

วัคซีนโควิดรพ.สนาม ๒๑๐๗๑๓

เปิดผลศึกษา ฉีดวัคซีนสลับชนิด ซิโนแวคเข็ม 1 แอสตราฯเข็ม 2

6. ผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกัน ของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 แบบสลับชนิด โดยเข็มแรกฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยวัคซีนแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่สอง จำนวน 36 ราย โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจำนวน 17 ราย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับนักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ผลการศึกษาพบว่า ระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนแบบสลับชนิด สูงกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 8 เท่า และผลการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตา พบว่า ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตามีค่าสูงทุกราย และอนุมานได้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสูตรนี้ ต่อสายพันธุ์เดลตา น่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80

7. การให้วัคซีนโควิด19 แบบสลับชนิด ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ น่าจะทำให้ผู้ได้รับวัคซีน มีภูมิคุ้มกันสูงต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตา ได้รวดเร็วกว่าการให้วัคซีนแอสตร้า สองเข็มห่างกัน 8 สัปดาห์ โดยการให้วัคซีนโควิด แบบสลับชนิด ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ น่าจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกัน ต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตาสูง เมื่อ 5-6 สัปดาห์หลังฉีดเข็มที่ 1

8. เนื่องจากประเทศไทย มีการใช้วัคซีนซิโนแวค เป็นจำนวนมาก ในสถานการณ์ที่เชื้อสายพันธุ์เดลตาระบาดรุนแรง ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้วัคซีนที่มีอยู่ ต่อการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต จากสายพันธุ์เดลตา มติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา นั้นมีความเหมาะสมแล้วในสถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับมาตรการการให้วัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หรือบูสเตอร์โดส หลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มในบุคลากรด่านหน้า นั้น เป็นไปตามข้อมูลที่ได้ติดตามผลการตรวจภูมิคุ้มกัน หลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันไม่สูงพอ สำหรับเชื้อสายพันธุ์เดลตา จึงมีข้อแนะนำให้ฉีดกระตุ้นในบุคลากรด่านหน้าได้ โดยอาจเป็นวัคซีนแอสตร้าฯ หรือวัคซีนชนิด mRNA อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หลังจากวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 2

มติดังกล่าว ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่จะต้องปฏิบัติภารกิจคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยโควิด สายพันธุ์เดลตา อย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่สามารถรอให้มีหลักฐานพิสูจน์ทราบว่าวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไม่ได้ผล คือ การพบบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าป่วยหนัก หรือสูญเสียชีวิตได้

ดังนั้น แม้จะยังไม่มีหลักฐานถึงประสิทธิภาพที่ชัดเจน แต่เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันว่าการให้วัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ชัดเจน และพบผลไม่พึงประสงค์รุนแรงได้ไม่บ่อย จึงเห็นควรสนับสนุนมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo