COVID-19

เคาะแล้ว จัดหาวัคซีน mRNA-ไวรัลเวคเตอร์ 120 โดส คุมส่งออกวัคซีนโควิด

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เคาะจัดหาวัคซีนอีก 120 ล้านโดส เน้นวัคซีนกลุ่ม mRNA ไวรัลเวคเตอร์ พร้อมกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีน วอนอย่าด้อยค่าวัคซีน ตัดถ้อยคำ WHO

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ได้พิจารณาและะผ่านความเห็นชอบ 2 วาระ คือการ จัดหาวัคซีน อีก 120 ล้านโดส และกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนป้องกันโควิด

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ

สำหรับการอนุมัติให้จัดหาวัคซีนอีก 120 ล้านโดส จะเป็นกานจัดหาในรูปแบบวัคซีนกลุ่ม mRNA ไวรัลเวคเตอร์ โปรตีนซับยูนิต และรูปแบบอื่น ๆ ที่เหมาะสม และตอบสนองกับไวรัสกลายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป โดยให้มีการจัดหาเพื่อให้มีเพียงพอ ฉีดกับประชากรที่ยังเข้าไม่ถึง และฉีดเพิ่มเติมกรณีกระตุ้นภูมิคุ้มกันในปีถัดไป

พร้อมกันนี้ ยังเป็นการจัดหาเพื่อสำรองกรณีระบาด โดยทั้งหมดเป็นกรอบจัดหาวัคซีนปี 2565 และมีมติให้กรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติเร่งจัดหาวัคซีนปี 2564 ให้ได้ 100 ล้านโดสด้วย

ส่วน วาระที่สอง การพิจารณาร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้มาตรา 18 พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ในการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนป้องกันโควิดไปภายนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ซึ่มอบให้ฝ่ายเลขานุการ คือ สถาบันวัคซีนฯ และกรมควบคุมโรค พิจารณาทบทวนเนื้อหาของร่างประกาศนี้ โดยพิจารณาผลกระทบ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศด้านต่าง ๆ และของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

อนุทิน1 1
นพ.นคร เปรมศรี

ขณะเดียวกันให้ดำเนินการเจรจาเต็มที่ กับผู้ผลิตวัคซีน ให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม กับสถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศ และเมื่อได้ผลอย่างไร ให้กลับมารายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างประกาศต่อไป

“เบื้องต้นผู้ผลิตวัคซีน บอกแนวทางการจัดสรร ว่า จะให้อยู่ 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศ เพราะยอดการสั่งซื้อของไทย อยู่ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของยอดกำลังการผลิตโดยรวมทั้งหมด เขาจะจัดส่งวัคซีนให้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตในแต่ละช่วงเวลา” นพ.นคร กล่าว

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ คณะกรรมการวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จะมีการพิจารณากรณี องค์การอนามัยโลก เตือนเรื่องการฉีดวัคซีนสลับชนิด

นพ.นคร

อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่า องค์การอนามัยโลก ได้ออกประกาศเรื่องนี้ค่อนข้างยาว การไปตัดท่อนใดท่อนหนึ่งก็จะเกิดปัญหาได้ แต่ภาพรวมองค์การอนามัยโลกเห็นว่า ถ้าหน่วยงานสาธารณสุขของแต่ละประเทศ มีข้อมูลวิชาการในการสนับสนุน ในการเลือกใช้วัคซีนแบบใดแบบหนึ่ง ก็สามารถดำเนินการได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของแต่ละประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo