กทม. เร่งตั้ง “ศูนย์พักคอย” ครบ 6 กลุ่มเขต รองรับผู้ป่วยรอเตียง “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ระบุ จะจัดตั้งให้มากสุดในทุกเขต ยอมรับ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ยังมีผู้ป่วยตกค้างอยุ่ แม้จะพยายามเพิ่มเตียงให้มากสุดแล้วก็ตาม
วันนี้ (4 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้เกิดผู้ป่วยตกค้าง หาเตียงรองรับไม่เพียงพอ โดยระบุว่า
สถานการณ์การแพร่ระบาดในตอนนี้ กทม. ได้เร่งนำส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนจนถึงวันนี้ ส่งผู้ป่วยโควิดเข้า โรงพยาบาลแล้ว 19,337 ราย
แต่การระบาดในแต่ละวัน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ยังมีผู้ป่วยตกค้างอยู่ ถึงแม้ว่า กทม. ได้เพิ่มจำนวนเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยให้มากที่สุดแล้วก็ตาม
สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดในครอบครัว และในชุมชนเพิ่มมากขึ้น คือ การแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว โดยการจัดตั้ง “ศูนย์พักคอย” ใช้เป็นสถานที่ให้ผู้ป่วยโควิดสีเขียว อยู่ระหว่างการรอส่งต่อโรงพยาบาล และใช้เป็นสถานที่สำหรับดูแล กลุ่มคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษระหว่างรอเตียง เช่น เด็กที่พ่อแม่ติดเชื้อ ที่ไม่มีคนในครอบครัวดูแล
“ศูนย์พักคอย รอการส่งต่อผู้ป่วยโควิดเข้ารักษาในโรงพยาบาล” หรือ Community Isolation กทม. มีแผนจะจัดตั้งให้ครบทั้ง 6 กลุ่มเขต และจะจัดตั้งให้มากที่สุดทุกเขตทั่วพื้นที่ กทม.
การดูแลผู้ป่วยโควิดที่ศูนย์พักคอยทุกแห่ง จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) คอยดูแลผู้ป่วยประเมินอาการอย่างใกล้ชิด โดยมีอุปกรณ์ที่จำเป็น ยา และเครื่องมือทางการแพทย์ ดูแลอาการผู้ป่วยโควิด ได้แก่
1. เครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว ไว้สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือด เพราะคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด สีเขียวจำนวนมากที่ไม่แสดงอาการ เปลี่ยนเป็นผู้ป่วยเหลืองได้เร็ว แต่หากมีการวัดค่าออกซิเจนระหว่างที่รอส่งโรงพยาบาล และพบว่ามีค่าต่ำกว่าปกติมาก (ต่ำกว่า 95%) จะได้รีบส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาล
2 เครื่องออกซิเจน ใช้สำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีออกซิเจนต่ำกว่า 95% ระหว่างการรอส่งเข้าโรงพยาบาล เพราะผู้ป่วยโควิดเขียว หากมีอาการขึ้นมา จะเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยเหลืองได้เร็วมากขึ้น
สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยสมัครใจแยกกักตัว ในบ้านที่พักอาศัยของตนเอง หรือ Home Isolation ระหว่างรอเตียงเข้ารักษาในโรงพยาบาล จะต้องผ่านการพิจารณาวินิจฉัย จากแพทย์ว่า สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ โดยจะต้องเป็นผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่ไม่มีอาการ ไม่มีภาวะอ้วน ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เป็นผู้สูงอายุ
ระหว่างการแยกกักตัวที่บ้าน จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) คอยดูแลผู้ป่วยประเมินอาการอย่างใกล้ชิด มีการตรวจวัดค่าออกซิเจน และให้ยาตามอาการ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีอาการ เปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีเหลือง จะรีบนำส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย
“ศูนย์พักคอยฯ” เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ในสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ เพื่อเป็นสถานที่ ที่ดูแลอาการเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยโควิดสีเขียว ในชุมชน หรือในพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อกักตัวผู้ป่วยออกจากคนในครอบครัว รอส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลหลัก เพื่อลดการติดเชื้อกันในครอบครัว ที่จะทำให้แพร่ระบาดต่อไปในชุมชน หรือในที่ทำงานได้
ขอให้มั่นใจ และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างเต็มกำลังทุกท่านครับ
#โควิดกรุงเทพ #ศูนย์พักคอย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ ตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยฯ ช่วยดูแลเด็ก-ผู้ป่วยสีเขียว
- เปิดโอกาส ‘ผู้พิการ’ ลงทะเบียน ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม กทม.-ปริมณฑล
- ไอซียูสนามแห่งแรกที่ราบ 11 ‘อนุทิน’ เปิดพร้อมรับติดโควิดกทม.