ขยะติดเชื้อ พุ่งเฉลี่ยวันละ 178 ตัน ผลพวงโควิด-19 ระบาดไม่หยุด กรมอนามัยแนะวิธีกำจัด ป้องกันแพร่เชื้อต่อ ด้าน สธ. รณรงค์ 4 กรกฎาคม วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2564 ภายใต้หัวข้อ “อนามัยสิ่งแวดล้อมปลอดภัย มิติใหม่สู่ความท้าทายในอนาคต” เปิดเผยว่า สถานการณ์ทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านสุขภาพอนามัย และปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปริมาณมูลฝอยทางการแพทย์ หรือ ขยะติดเชื้อ ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย พบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อ ซึ่งเกิดจากการตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล การกักกันผู้ติดเชื้อ รวมถึงมูลฝอยจากการให้บริการฉีดวัคซีน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2564 พบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 40.9 ตันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 29.7% โดยเฉพาะในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว พบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อสูงที่สุดเฉลี่ย 178 ตันต่อวัน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ซึ่งในปี 2563 มีประชากรกลุ่มเสี่ยงถึง 15 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด มีโอกาสได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ดังนั้น การเฝ้าระวังป้องกันความเสี่ยงสุขภาพของประชาชน จึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างความร่วมมือ และบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วน ในการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ขงประเทศไทย อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
3 ขั้นตอน กำจัดขยะติดเชื้อ
ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า แนวทางการจัดการ มูลฝอยติดเชื้อในครัวเรือน หรือชุมชน กรณีพบผู้ติดเชื้อ หรือกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดการเกิดมูลฝอยติดเชื้อ และลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด–19 นั้น หากในพื้นที่ ที่ระบบการเก็บขนส่งมูลฝอยติดเชื้อ ไม่สามารถเข้าถึงได้ ให้ใช้วิธีการดังนี้
1. เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุมูลฝอยติดเชื้อ ให้ราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาฟอกขาว จากนั้นมัดปากถุงให้แน่น แล้วฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อ (สารโซเดียมไฮโปรคลอไรท์ 5,000 ppm หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์) บริเวณปากถุงแล้ว ซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น แล้วมัดปากถุงชั้นนอกให้แน่น และฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้ออีกครั้ง
2. เคลื่อนย้ายไปพักยังที่พักที่จัดไว้เฉพาะ เพื่อรอประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาเก็บขนไปกำจัดอย่างถูกต้อง
3. ภายหลังจัดการมูลฝอยแล้ว ล้างมือให้สะอาด ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทันที
สำหรับประชาชนทั่วไป หากต้องทิ้งหน้ากากอนามัย ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
เริ่มจากถอดหน้ากาก โดยจับสายรัดและถอดหน้ากากอนามัยจากด้านหลัง จากนั้นให้พับหรือม้วนหน้ากากส่วนที่สัมผัสกับใบหน้าเข้าหากัน จนมีขนาดเล็กแล้วมัดด้วยสายรัดให้แน่น โดยหากสถานที่นั้นมีจุดทิ้งหน้ากากไว้เป็นการเฉพาะ ให้ทิ้งลงในถังหรือภาชนะนั้น
กรณีสถานที่นั้น ไม่มีจุดสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย ให้นำหน้ากากอนามัยที่พับแล้ว ใส่ถุงพลาสติก จากนั้นมัดหรือปิดปากถุงให้แน่น ก่อนทิ้งลงในถัง หรือภาชนะรองรับขยะทั่วไป ที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง และต้องล้างมือให้สะอาด ด้วยสบู่และน้ำทุกครั้ง หลังการทิ้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้ว่าฯ อัศวิน ชื่นชม ด่านหลังสู้โควิด ‘เจ้าหน้าที่เก็บขยะ’ ทำงานเช้ายันมืด จัดการมูลฝอยติดเชื้อ พุ่งวันละ 10 ตัน
- ‘มหิดล’ ส่ง 2 หุ่นยนต์ ‘มูลฝอยติดเชื้อ -ส่งของ’ สู้โควิด-19
- ช่วยหน่อยเถอะ! ทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถูกวิธี ลดเสี่ยงแพร่เชื้อ