COVID-19

ขู่ ‘แคมป์คนงานก่อสร้าง’ หย่อนมาตรการ ส่งฝ่ายความมั่นคงจัดการ ห่วงคลัสเตอร์รง. 2 เดือน โควิดลาม 10 จังหวัด

แคมป์คนงานก่อสร้าง หย่อนมาตรการ ศบค.ชุดเล็ก ลั่นส่งต่อ ฝ่ายความมั่นคงจัดการ พร้อมจับตาเข้ม คลัสเตอร์โรงงาน 2 เดือน แพร่โควิดลาม 10 จังหวัด 

พญ.อภิสมัย ศรีสังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในส่วนของกรณี แคมป์คนงานก่อสร้าง หย่อนมาตรการ ในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. ได้ขอความช่วยเหลือให้ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ให้การสนับสนุนการทำงานของ กทม. และกรมควบคุมโรค เพื่อกำชับให้มาตรการที่ออกมาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่าการแพร่ระบาด จะสามารถควบคุมได้ในที่สุด

แคมป์คนงานก่อสร้าง หย่อนมาตรการ

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก ได้หารือกันว่า จากการวางมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของแคมป์ที่พักคนงาน ไซต์ก่อสร้าง ได้มอบให้ กรมควบคุมโรค ทบทวนรายละเอียด การจัดการบับเบิล แอนด์ซีล เพื่อให้การแพร่ระบาดมีวงจำกัดอยู่เฉพาะที่แคมป์คนงาน เพื่อให้สถานประกอบการ แคมป์คนงาน เกิดความเข้าใจในรายละเอียดการปฏิบัติให้ตรงกันแล้ว จะได้ทำให้ถูกต้อง

สุดท้ายฝากไปที่ประชาชน ร่วมมือกับมาตรการรัฐที่เข้มข้น ถ้าผู้ประกอบการ แคมป์คนงาน สถานประกอบการย่อหย่อนปฏิบัติไม่ได้ หมายความพี่น้องประชาชนจะไม่ได้รับความปลอดภัย ดังนั้น ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน จึงต้องช่วยเป็นหูเป็นตา ที่ผ่านมา ศบค.ได้รับทราบเหตุการณ์ หรือการฝ่าฝืนมาตรการในตรงนี้นั้นตรงนี้ เป็นเพราะพี่น้องประชาชนแจ้งเข้ามา และสื่อมวลชน ช่วยกันเป็นกระบอกเสียง จึงขอความร่วมมือจากทุกคน ให้ทำหน้าที่ต่อไป เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น

โรงงาน

นอกจากนี้ สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ได้รายงานตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อในโรงงานต่าง ๆ หรือ คลัสเตอร์โรงงาน 2 เดือน ที่ผ่านมา พบมีการติดเชื้อใน 10 จังหวัด ส่วนใหญ่จะติดในโรงงานขนาดใหญ่ ที่มีแรงงานเกิน 200 คน เนื่องจากสถานที่แออัด ระบบระบายอากาศไม่ดี จุดสัมผัสไม่สะอาด มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์พบว่า โรงงานที่มีขนาดใหญ่ พบการติดเชื้อมากถึง 20% โรงงานขนาดเล็กติดเชื้อเพียง 5%

สำหรับตัวเลขโรงงาน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมไว้ 63,000 แห่ง มีโรงงานที่มีผู้ติดเชื้อ และเข้าสู่การประเมินตนเอง ในแบบประเมินตนเองด้านสาธารณสุข จำนวน 8,200 โรงงาน แต่พบว่า โรงงานขนาดใหญ่ 3,300 โรงงาน เข้าไปประเมินเพียง 650 โรงงาน ทั้งที่เป็นเป้าหมายที่มีการติดเชื้อ มากกว่าโรงงานขนาดกลาง และขนาดเล็ก แต่มีการเฝ้าระวังตนเองค่อนข้างน้อยเพียง 20%

โรงงาน กระจาย

ดังนั้น จึงเน้นย้ำให้ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564 โรงงานขนาดใหญ่ ที่มีรายชื่ออยู่ใน กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องเข้าไปประเมินตนเองให้ครบถ้วน 100% จะเลือกทำบางส่วนไม่ได้ และขอให้ตอบตามความเป็นจริง หากได้คะแนนน้อย หรือไม่ผ่านเกณฑ์ จะมีทีมพี่เลี้ยงลงพื้นที่ ไปช่วยปรับปรุงแก้ไขให้ผ่าน แต่หากขอความร่วมมือแล้วเพิกเฉย ไม่ประเมินตนเอง เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อ และกระจายไปที่อื่น จะมีการพิจารณาบทลงโทษ แต่หากโรงงานทำได้ดี จะมีการให้รางวัล ปรับให้เป็นสถานประกอบต้นแบบ

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้มีการหยิบยกกรณีการติดเชื้อ ในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่ จ.สระบุรี มาหารือ เนื่องจากขณะนี้ มีการกระจายเชื้อไปหลายจังหวัด โดยโรงงานดังกล่าวมีแรงงานจำนวนมาก เป็นคนไทย 4,000 กว่าคน ชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งการติดเชื้ออยู่ในหลายแผนกด้วยกัน กระจายติดไปทั้งโรงงาน

โรงงานสระบุรี

ขณะที่ กรมควบคุมโรค วิเคราะห์ว่า พนักงานคนไทยจะอยู่บ้านพักส่วนตัว หรือหอพักโดยรอบโรงงาน ส่วนแรงงานต่างชาติ จะอยู่หอพักที่โรงงานจัดให้ บางจุดค่อนข้างแออัด อยู่กันห้องหนึ่ง 3-6 คน ใช้พื้นที่กลาง ร่วมรับประทานอาหาร แต่พบว่า ในส่วนของแรงงานฝีมือ หรือช่าง แม้จะอยู่ปะปนกับแรงงานอื่น ๆ แต่มีการติดเชื้อน้อย เป็นเพราะแรงงานกลุ่มนี้มีมาตรการส่วนตัวเข้มข้น และระมัดระวังตัวอย่างสูงสุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo