“ตรัง” อาการหนัก! เจอผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ จากโรงงานผลิตถุงมือยาง วันเดียวสูงถึง 164 ราย ดันยอดผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้พุ่งถึง 387 รายแล้ว รอลุ้นอีก 349 คน คาดรู้ผลตรวจทั้งหมดพรุ่งนี้
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยมี นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง (สสจ.ตรัง) นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง นางจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โรงงานศรีตรังโกลฟส์
นายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอกันตัง นพ. ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง และ พญ.ทิพย์ลดา บุญชัย นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาล รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ศูนย์แถลงข่าว ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง ห้องลิบง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดตรัง
นพ.บรรเจิด นพ.สสจ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อจำนวน 164 ราย รวมติดเชื้อระลอกใหม่ทั้งหมด 665 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ทั้งหมด รวมผู้ติดเชื้อของคลัสเตอร์โรงงานในขณะนี้ทั้งหมด 387 คน แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 84 คน สัญชาติไทย 303 คน
จากผลการตรวจหาเชื้อ (SWAP) จากโพรงจมูกและคอ จำนวน 1,186 ราย และยังคงเหลือตัวอย่างผลตรวจอีกจำนวน 439 ราย ซึ่งคาดว่าจะมีผลออกมาทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.)
ทั้งนี้ จำนวนการตรวจหาเชื้อทั้งหมดโรงงานจำนวน 1,627 คน เฉลี่ยการพบเชื้อ 1 ต่อ 3 คน ซึ่งเป็นธรรมดาที่ยอดผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงเช่นนี้ เพราะเป็นการระบาดในโรงงานขนาดใหญ่
พนักงานของโรงงานส่วนใหญ่เป็นคนจังหวัดตรัง และมีการเดินทางกลับบ้าน ซึ่งตั้งแต่ต้นได้มีการเรียกตัวกลับมาในโรงงานทั้งหมดแล้ว แต่มีความเป็นห่วงคนในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนฝูง ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยได้ให้ทำการกักตัวแล้วจำนวน 14 วัน ทางทีมสอบสวนโรคจะดำเนินการตรวจตามกลุ่มผู้สัมผัสต่าง ๆ ต่อไป
ส่วนแรงงานอีกจำนวน 16 คน ได้ลางานเดินทางกลับไปยังจังหวัดสงขลา สตูล และนครศรีธรรมราช ซึ่งใน 16 รายนี้ ได้ประสานให้กักตัวไปแล้วเช่นกัน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้นตอของเชื้อมาจากที่ใด
ทางด้าน นพ.ตุลกานต์ จากโรงพยาบาลตรังกล่าวว่า ยอดผู้ป่วย จ.ตรัง ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ อันดับ 4 ของประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อของตรังขณะนี้อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 47.71 ราย เกินกว่า 30 คนต่อวัน ซึ่งตัวเลขที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการตรวจหาเชื้อจำนวนมาก โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทางทีมจะสามารถควบคุมโรคไว้ได้อย่างแน่นอน
นายจักรพงษ์ นายอำเภอกันตัง กล่าวว่า แรงงานส่วนใหญ่กระจายอยู่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ กันตัง ย่านตาขาว และ อำเภอเมืองตรัง โดยในขณะนี้ได้ทำประวัติ และข้อมูลของแรงงาน เพื่อแยกข้อมูลภูมิลำเนา และควบคุมโรคในเชิงพื้นที่ โดยมีการเรียกพนักงาน กลับเข้ามายังโรงงานตั้งแต่ต้น ส่วนบุคคลในครอบครัวของแรงงาน ได้สั่งการให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำชับ และดูแลให้ทุกคนกักตัว 14 วัน หากมีอาการจะประสานทีม ศบค.เข้าทำการตรวจหาเชื้อโดยทันที
ขณะที่ นายขจรศักดิ์ ผู้ว่าราชการตรัง ระบุว่า โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง มีทั้งสิ้น 413 แห่ง มีแรงงานกว่า 20,000 ราย ซึ่งโชคดีว่า ทางทีมงานได้เข้าควบคุม และจำกัดวงได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที โดยการติดเชื้อในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนให้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ในโรงงานอื่น ๆ ต่อไป
ขณะนี้ ทางจังหวัดได้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้แล้วถึง 5 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้มากถึง 700 เตียง ในส่วนของวัคซีน มีผู้ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อมไปแล้วกว่า 130,000 ราย จากจำนวนประชากร ในจังหวัดตรังทั้งหมดราว 640,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นประชากรที่มีอยู่ในระบบสาธารณสุขจำนวน 480,000 คน
จังหวัดตรังได้เตรียมสถานที่ฉีดวัคซีน และเตรียมบุคลากรไว้เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว รอแค่เพียงทางรัฐบาลจัดสรรวัคซีนมาให้ ก็พร้อมที่จะฉีดได้ทันที โดยสามารถฉีดวัคซีน ได้วันละ 7,860 คน
ในส่วนของเศรษฐกิจ ร้านค้า ร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ฯลฯ ทางจังหวัดได้มีงบประมาณในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเตรียมโครงการรองรับไว้แล้ว เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในขณะนี้ ยอมรับว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดในหลายปัจจัย ซึ่งหากมีผู้ประกอบการมีไอเดีย หรือมีความคิดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถมาพูดคุยกันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลัสเตอร์ถุงมือยางยังลาม ดันโควิด ‘ตรัง’ วันนี้ ติดเชื้อพุ่ง 44 ราย
- หวั่นเป็นคลัสเตอร์ใหญ่! ตรังสั่งปิด ‘โรงงานถุงมือ’ เจอคนงานติดโควิดวันเดียว 39 คน
- กยท.ชี้ศรีตรังฯ ปิดโรงงานผลิตถุงมือยาง 2 สาขา ไม่กระทบตลาดยาง
