ประธานบอร์ด รพ.ธรรมศาสตร์ฯ “สุรพล นิติไกรพจน์” บอกเล่า สถานการณ์ล่าสุด ในการรองรับผู้ป่วยโควิด และการเตรียมพร้อมรับการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ระบุ สู้ต่อไป แม้จะต้องแบบรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดือนละไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้าน ไร้การสนับสนุนจากภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้เขียนบทความบอกเล่า ถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน รวมถึง ความมุ่งมั่นในการทำงานของบุคลากร และอาสาสมัครทุกคน และค่าใช้จ่ายที่ทางโรงพยาบาลต้องแบกรับ โดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐ โดยระบุว่า
วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม วันที่สี่สิบห้าของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์
เรามาอยู่ที่นี่เป็นรอบที่ 3 ที่อาคาร DLUXX ครบเจ็ดสัปดาห์แล้วนะ เราน่าจะเป็นโรงพยาบาลสนามที่อยู่ยาวนานกว่าใคร ๆ ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรองรับการระบาดเฉพาะพื้นที่ ซึ่งทยอยปิดกิจการกันไปเรื่อย ๆ เมื่อการระบาดเฉพาะถิ่นจบลง
แต่ที่นี่เราไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ แต่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับระบบสาธารณสุขของปทุมธานีและกรุงเทพตอนเหนือ เราตั้งขึ้นเพื่อช่วยดึงคนไข้ออกจาก รพ.หลักในเขตของเราทั้งหมดรวมไปถึงจากโซนอื่น ๆ ในกทม.ที่มีผู้ป่วยหนักเกินกำลัง เพื่อให้รพ.เหล่านั้นสามารถมีเตียงว่างไปรับผู้ป่วยใหม่ ๆ ได้เรื่อย ๆ
ดังนั้นเราจึงปิดการไม่ได้ หยุดพักไม่ได้ ไม่รับผู้ป่วยแม้วันเดียวก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดภาวะเตียงเต็มขึ้นในรพ.ด่านหน้าทั้งหลายทันที
หลาย ๆ คนถามว่าจะปิด รพ.สนามธรรมศาสตร์ได้เมื่อไหร่ คำตอบที่พอจะตอบได้ก็คือเมื่อผู้ป่วยโควิดรายใหม่ของประเทศในแต่ละวันลดลงเหลือน้อยกว่าพันคนกระมัง ความหวังที่แพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการสาธารณสุขของเราที่อยู่ที่นี่จะได้หยุดพักบ้างคงมีอยู่ แต่ก็คงอีกนานกว่าจะมาถึง
ถึงอย่างไรก็ตาม เราจะสู้ต่อไป ไม่ท้อ ไม่เลิกราเพื่อพวกเราชาวไทยทุก ๆ คนที่เรารัก
วันนี้ที่ รพ.สนามเรารับผู้ป่วยเข้ามาจากรพ.ต่าง ๆ หลายแห่งได้อีก 17 คนและมีผู้ป่วยที่เราดูแลจนกลับบ้านได้มากถึง 51 คน จึงยังเหลือคนที่อาศัยอยู่ให้พวกเราดูแลจำนวน 196 คน เหลือต่ำกว่าสองร้อยแล้วนะ
ผู้ป่วยโควิดเหล่านี้คือหน้าที่ และความรับผิดชอบของพวกเราที่มีต่อสังคมไทย พวกเราที่นี่ สัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไปนะ
สำหรับที่ รพ.ธรรมศาสตร์ นอกจากภาระการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็ม 2 วันละพันคนตามรอบเวลา และภาระการดูแลผู้ป่วยอื่น ที่ไม่ใช่โควิดที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้รพ.จะไม่นัดคนไข้ที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้ และแม้จะมีการปิดห้องผ่าตัด ที่ไม่ใช่เคสฉุกเฉินไปครึ่งหนึ่งก็ตาม เพราะเราห้ามคนไม่ให้ป่วย ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และไม่ให้มาตรวจ ไม่ให้มาคลอด และไม่ให้มาตรวจติดตามผลตามรอบระยะเวลาหลังการผ่าตัดไม่ได้
ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยนอกต่อวันของเรา กลับมาเป็นราววันละ 3,000 คนอีกแล้ว เราคงต้องดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันกับการระมัดระวังการระบาดของโควิด และการป้องกันบุคลากร มิให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อจากผู้ป่วยไปด้วย
จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ลดลงกว่า 30% เพราะถูกแบ่งกำลังไปช่วยดูแลผู้ป่วยโควิดและไปรับจอง รับฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากแล้ว งานดูแลผู้ป่วยปกติในสถานการณ์ที่เสี่ยงมากเช่นนี้ ก็ถือเป็นพันธกิจของพวกเรา ที่จะต้องดูแลดำเนินการให้มีมาตรฐาน และด้วยคุณภาพการบริการระดับสูง ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ด้วย จึงมีภาระงานที่หนักอึ้งไม่แพ้งานการดูแลผู้ป่วยโควิด ที่เป็นความสนใจ และถูกติดตามอย่างใกล้ชิดจากสังคมเลย
สำหรับกรณีของผู้ป่วยโควิด วันนี้เรามีเตียงเหลือง และแดง ว่างอยู่เกือบสิบเตียง ผู้ป่วยเขียวก็อีกเกือบสิบเตียง แต่มีผู้ป่วยใหม่ที่มาจากการ Swab ของเรา ซึ่งเป็นเคสเขียว จองจะเข้าแอทมิทในวันนี้อยู่แล้วเกือบเต็ม
ส่วนผู้ป่วยวิกฤติ และกึ่งวิกฤติ ก็มีคำขอส่งreter มา ทั้งที่มาจากรพ.สนาม และรพ.อื่นในปทุมธานี และในเขตเหนือของ กทม.เข้ามาในวันนี้ จำนวนรวมของคืนนี้น่าจะมีอยู่ราว ๆ 70 เตียงเช่นเดียวกับหลายวันที่ผ่านมา
ในเรื่องการจัดเตรียมศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ เพื่อเตรียมการรองรับงานจุลกฐิน ที่จะเริ่มในวันที่ 7 มิถุนายน นี้ เหลือเพียง 13 วัน เราก็จะเริ่มมีผู้สูงอายุ 2,000 คนมาเข้าคิวรับวัคซีนที่ยิมเนเซียม 4 ของเราแล้ว
วันนี้ จึงเป็นการเตรียมการเรื่องการจัดอาคารสถานที่ การเตรียมระบบครุภัณฑ์และเวชภัณฑ์ การจัดเตรียมเส้นทางการ Flow ของผู้มารับวัคซีน การจัดพื้นที่พักรอ และการเตรียมพื้นที่พักสังเกตอาการหลังรับวัคซีน ไปจนกระทั่งถึงระบบการดูแลฉุกเฉินทางการแพทย์ ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน
วันนี้ การวางแผนและเตรียมการทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และทำให้ทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมกันทำงานมีความมั่นใจมากขึ้นว่า เราจะสามารถให้บริการประชาชน ที่จะมารับบริการวัคซีนได้เป็นอย่างดี
ข้อที่เราอยากจะบอกก็คือ การจัดบริการรับวัคซีนที่ มธ.ศูนย์รังสิตในยิมเนเซียม 4 ซึ่งเป็นยิมขนาด 2,500 ที่นั่งนี้เป็นไปโดยงบประมาณ กำลังคน และค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เองทั้งสิ้น
เฉพาะค่าไฟฟ้าสำหรับการเปิดแอร์ และไฟส่องสว่างวันละ 10 ชั่วโมง ก็คือวันละ 50,000 บาท เมื่อคิดไป 200 วัน เฉพาะค่าไฟฟ้าก็คือ 10 ล้านบาท
เราจะใช้บุคลากรวันละ 100 คนในยิม สำหรับการตรวจสอบประวัติ การตรวจความดัน ฉีดวัคซีน สังเกตอาการ และออกบัตรนัดฉีดเข็มที่สอง ยังไม่รวมแม่บ้านทำความสะอาดพื้นที่ และห้องน้ำ กับ จนท.รปภ.ในการจัดระเบียบ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอีก 30 คนต่อวัน
เราคงต้องดูแลจัดการอาหาร ทุกมื้อ เครื่องดื่ม และที่พักทานอาหารให้แก่บุคลากรทุก ๆ ฝ่าย เราประเมินกันว่างานอาสาสมัครฉีดวัคซีน 2,000 คนต่อวันนี้ เฉพาะค่าใช้จ่ายเราต้องรับภาระคงอยู่ที่ประมาณเดือนละ 4-5 ล้านบาท
ที่สำคัญก็คือ ธรรมศาสตร์ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใด ๆ จากการนี้ เราไม่มีของขาย เราไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ เราต้องเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และเตรียมผู้คนชาวธรรมศาสตร์ ที่อาสามาช่วยกันทำงานดูแลผู้คน ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา
เรารู้ว่างานนี้เป็นงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ยากลำบาก และต้องทำติดต่อกันยาวนาน และจะไม่มีอะไรตอบแทน แต่เราก็จะทำมัน จะทำอย่างเต็มที่ และจะทำให้ดีที่สุด เราสัญญา
เหตุผลเดียวที่ทำให้พวกเราต้องลุกขึ้นทำเรื่องเหล่านี้ ก็คงเป็นเหตุผลซ้ำ ๆ ที่พวกเราบอกกันเองมาโดยตลอด ตั้งแต่คราวตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ตั้งศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยนำ้ท่วมใหญ่ หรือตั้งโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์มาทั้งสามรอบ ที่ว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สั่งปิด ‘แม็คโครลาดพร้าว – ไปรษณีย์ คลองจั่น’ 3 วัน สกัดโควิด
- ศบค.ยึด 4 ปัจจัยปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด
- ‘หมอนิธิพัฒน์’ ซัดกลับ #ภาครัฐโปรดสื่อสารความจริงกับประชาชน