COVID-19

สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ยังจำกัดวงอยู่ตากใบ สธ.เปิดผลตรวจเชื้อโควิด 93% เป็นสายพันธุ์อังกฤษ

สธ.ลั่น สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ยังอยู่ในพื้นที่ อ.ตากใบ จำกัดวงไม่ให้แพร่กระจายต่อ เปิดผลตรวจเชื้อโควิด 1,300 ตัวอย่าง พบ 93% เป็นสายพันธุ์อังกฤษ วัคซีนยังป้องกันได้

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่ตรวจพบ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไม่มีการแพร่ออกไปพื้นที่อื่น แต่ต้องมีการเก็บตัวอย่างเชื้อพื้นที่ใกล้เคียงมาตรวจเพิ่มเติม เช่น ยะลา สงขลา พัทลุง เป็นต้น

สายพันธุ์แอฟริกาใต้

ดังนั้น ขอให้ทุกคนลดการเคลื่อนย้าย ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปพื้นที่อื่น ส่วนความรุนแรงของสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เนื่องจากประเทศไทยยังมีข้อมูลน้อยที่จะบอกความรุนแรง ส่วนต่างประเทศมีข้อมูลว่าอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จึงต้องเฝ้าระวังต่อไป แต่รักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่และหายแล้ว 3 ราย

ทั้งนี้ ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสโควิด 19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา หากมีการแพร่เชื้อมากขึ้น โอกาสเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น ซึ่งการเฝ้าระวังมี 2 ระดับ คือ 1. ระดับที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ที่ต้องติดตามกันต่อ และ 2. ระดับที่น่าห่วงกังวล (Variant of Concern) เช่น สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการในการสุ่มตรวจ เพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ พื้นที่ชายแดน ในกลุ่มผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจหรือเสียชีวิต และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

ขณะนี้ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์อังกฤษ จากการสุ่มตรวจเชื้อ 1,300 กว่าตัวอย่าง พบสายพันธุ์อังกฤษ 1,200 กว่าตัวอย่างหรือ 93% มาแทนที่สายพันธุ์เดิมก่อนหน้าแล้ว เพราะแพร่กระจายเร็ว ส่วนความรุนแรง ไม่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม และภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยังได้ผล

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์

การตรวจสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด ต้องใช้วิธีการตรวจพิเศษ ใน 3 วิธี คือ 1. การตรวจ RT PCR โดยการใช้น้ำยาเฉพาะต่อสายพันธุ์นั้น 2. การตรวจมุ่งเป้าเฉพาะส่วนของเชื้อไวรัส (Targeted sequencing) ใช้เวลา 1-2 วัน และ 3. การตรวจไวรัสทั้งตัว (Whole genome sequencing) ใช้เวลา 3-5 วัน มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ช่วยให้ทราบสายตระกูลของเชื้อว่ามีต้นทางมาจากที่ไหน เนื่องจากนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลการตรวจสายพันธุ์ของแต่ละประเทศ ที่ส่งมาเป็นข้อมูลส่วนกลางได้

ตัวอย่างเช่น การระบาดที่สมุทรสาคร พบว่าเชื้อมาจากอินเดีย บังกลาเทศ และเข้ามาทางเมียนมา เป็นต้น ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาให้ตรวจวิธีดังกล่าวได้มากกว่า 380 ตัวอย่างต่อสัปดาห์สูงกว่ามาตรฐานระดับโลก

ในส่วนของการตรวจพบสายพันธุ์อินเดีย ในแคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ที่พบ 36 ราย เมื่อขยายการตรวจออกไปในพื้นที่อื่นของ กทม. ขณะนี้พบ 62 ราย สายพันธุ์นี้แพร่กระจายเร็วเช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ ความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก วัคซีนยังใช้ได้ ที่บอกว่าสายพันธุ์อินเดีย จะหลบเข้าไปในปอด ตรวจหาเชื้อทางจมูกไม่เจอ ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo