รองโฆษกรัฐบาลยัน! เดือน มิ.ย. เปิดแน่ “Walk In ฉีดวัคซีน” ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจังหวัด แบ่งสัดส่วนวัคซีนให้ 20%
วันนี้ (14 พ.ค.) นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ให้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ลดโอกาสความรุนแรง และเสียชีวิต
นโยบายดังกล่าวนำไปสู่มติคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่กำหนดรูปแบบการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ตั้งแต่เดือนมิถุนยายน 2564 เป็นต้นไป โดยจะรวมถึงรูปแบบที่ประชาชนวอล์คอิน (Walk In) เข้ามารับวัคซีน ณ จุดบริการต่าง ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่แต่ละพื้นที่เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามแนวนโยบายของทั้งนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งแต่ละแห่งมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค รวมถึงความพร้อมแตกต่างกัน ดังนั้นข้อมูลข่าวสารของแต่ละพื้นที่ในขณะนี้จึงอาจจะยังสร้างความสับสนให้กับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ จึงมีข้อสั่งการให้ชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
“Walk In” ได้รับจัดสรรวัคซีน 20%
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนขณะนี้คือ การจัดหาวัคซีนที่เพียงพอกับประชาชนทุกคน จึงได้มีการปรับเป้าหมายการจัดหาจาก 100 ล้านโดส เป็น 150 ล้านโดส
ด้านรูปแบบการกระจายวัคซีนนั้น จะดำเนินการผ่าน 3 รูปแบบและเริ่มดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2564 คือ
1.การนัดผ่านไลน์ หรือแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่รัฐบาลจะจัดให้
2.นัดเป็นกลุ่มก้อน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือองค์กรภาครัฐและเอกชนรวบรวม
3.รูปแบบ Walk In
สัดส่วนการจัดสรรวัคซีนจะอยู่ที่ 30 : 50 : 20 คือ การนัดหมายผ่านไลน์หรือแอปฯ อยู่ที่ 30% การนัดเป็นกลุ่มก้อนอยู่ที่ 50% และรูปแบบ Walk in ฉีดวัคซีน อยู่ที่ 20% แต่สัดส่วนดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเห็นสมควร
ในส่วนของรูปแบบที่ 3 คือการเปิดให้ Walk In นั้นตามนโยบายรัฐบาลจะจัดให้มีอย่างแน่นอน เพื่อเปิดโอกาสให้กับประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบตามรูปแบบแรก และไม่ได้ผ่านการนัดหมายแบบกลุ่มก้อนในแบบที่ 2 แต่การให้วัคซีนแบบการ Walk In นี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องพิจารณาทั้งประเด็นของปริมาณวัคซีนและสถานการณ์การแพร่ระบาด
เช่น กรณีของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่แม้นโยบายของรัฐบาลเห็นว่าให้ประชาชน Walk In รับวัคซีนได้ แต่ผู้รับผิดชอบพื้นที่เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เหมาะสมที่จะมีการ Walk In เนื่องจากเป็นพื้นที่แพร่ระบาดสูง หากมีกิจกรรมรวมตัวจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้น ทางกรุงเทพมหานครจึงยังไม่เปิดให้มีการ Walk In ในขณะนี้ แต่จะมีอย่างแน่นอนเมื่อมีความพร้อม เนื่องจากขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่ไว้แล้วหลายแห่ง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด ติดตามการประกาศของจังหวัด ซึ่งจะยึดแนวนโยบายของรัฐบาลเพียงแต่มีรายละเอียดต่างตามสถานการณ์ของพื้นที่เท่านั้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในประเด็นเกี่ยวกับการรับส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนในเวลานี้ เพื่อลดความสับสน รัฐบาลขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลของทางการโดยเฉพาะประกาศของทางจังหวัด
ส่วนการรับข้อมูลทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ขอให้รับด้วยความระมัดระวังมีการตรวจสอบที่มาอย่างรอบด้าน และขอความร่วมมือผู้จัดทำชุดข้อมูล กราฟฟิก หรือข้อความเพื่อส่งต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ ขอให้เป็นการทำข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคม ลดการสร้างความสับสน เพื่อความเข้าใจร่วมกันจะนำไปสู่การควบคุมการแพร่ระบาด การดูแลสภาพและชีวิตประชาชนที่มีประสิทธิภาพ และคนไทยจะได้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
ด้าน ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูล COVID-19 เปิดเผยว่า จำนวนการได้ฉีดวัคซีนโควิด – 19 สะสมในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 13 พฤษภาคม 2564 รวมอยู่ที่ 2,124,732 โดส ใน 77 จังหวัด
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 อยู่ที่ 1,416,432 ราย
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 อยู่ที่ 708,300 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ภูเก็ต’ แห่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน 1.4 แสนคน เฟสแรกตั้งเป้าเข็มแรก 2 แสนคน ระดมฉีด 18 – 24 พ.ค.นี้
- ด่วน! ผู้ว่านนทบุรีสั่งปิด ‘อาคารจิรจิตต์ อพาร์ทเม้น’ ห้ามเข้า-ออก ถึง 24 พ.ค.นี้
- ใช้ได้แล้ว! อย. รับรองวัคซีนโควิด ‘โมเดอร์นา’ ฉีดในไทยได้แล้ว