COVID-19

‘เพื่อไทย’ ปัดข่าวเสียบพรรคร่วมรัฐบาล ชี้ช่อง ‘นายกฯ’ ลาออกก่อนเจอขับไล่

 “เพื่อไทย” ปัดข่าวลือเสียบ พรรคร่วมรัฐบาล แทน “ภูมิใจไทย” ชี้เป็นเกมส์การเมืองโบราณ แนะช่อง “นายกฯ” ลาออก – ยุบสภา ก่อนประชาชนรวมม็อบขับไล่

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า มีความพยายามหาพรรคสำรองไปเป็น พรรคร่วมรัฐบาล โดยเตรียมดึงพรรค เพื่อไทย (พท.) เข้าร่วมรัฐบาลแทนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และอ้างว่า พท. พร้อมเข้าร่วม โดยไม่มีข้อต่อรองหรือเงื่อนไขใด ๆ นั้น

เพื่อไทย ข่าวลือ พรรคร่วมรัฐบาล 2 3

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธข่าวและยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เป็นข่าวปลอม (Fake News) เต้าข่าว เพื่อหวังผลทางการเมือง เบี่ยงเบนประเด็นปัญหาในวิกฤติเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่ขัดแย้งแตกแยกกันอย่างหนัก สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารงาน จนเกิดสภาพความแตกแยกและความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลประยุทธ์ เป็นที่น่าสงสัยว่า แทบทุกครั้งที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหองระแหงกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการใช้หมากเกมการเมืองโบราณตื้น ๆ เคลื่อนไหวโดยใช้วิธีการเต้าข่าวเปิดประเด็นแบบนี้ตลอด

พท. เป็นสถาบันทางการเมืองในฝ่ายประชาธิปไตย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ จนมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มากที่สุดในสภา หากไม่เจอกลไกลับลวงพรางของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นรัฐบาล พท. ต้องได้เป็นรัฐบาล

น่าเสียดายว่า คนไทยต้องเจอทั้งวิกฤติ โควิด – 19 วิกฤติเศรษฐกิจ สังคมการเมือง ที่รัฐบาลประยุทธ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย หาก พท. มีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาล จะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศชาติได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่สถาบันทางการเมืองอันดับหนึ่งของประเทศอย่าง พท. จะไปเป็นพรรคอะไหล่สำรอง เสียบแทนพรรคการเมืองอื่นในซีกพรรคร่วมรัฐบาล

“รัฐบาลประยุทธ์ กำลังเข้าตาจน โควิดระบาดระลอกแรก หน้ากากอนามัยล่องหน ปล่อยให้โควิดระบาดจนถึงระลอกที่ 3 เกิดวิกฤตวัคซีนขาดแคลนไม่เพียงพอ ไม่หลากหลาย ไม่ครอบคลุม ปัญหาการกระจายวัคซีนไม่เหมาะสม ไม่เท่าเทียม ไม่ทั่วถึง ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะรัฐบาลทำตัวเอง ที่ไม่มีเอกภาพ ไร้เสถียรภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ล้มเหลวในการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

สิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ควรทำมากว่าการหาพรรคสำรอง คือ ลาออก หรือยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะเมื่อคนไทยได้รับการฉีดวัคซีน โควิด – 19 มากขึ้น ถนนทุกสายจะไหลรวมไปสู่การออกมาขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ ถึงวันนั้นรัฐบาลต้องออกไปอยู่ดี เพราะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

นายกรัฐมนตรี แถลงแผนบริหารสถานการณ์โควิด

รายงานข่าวเปิดเผยว่า หลังจากวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด – 19 รายใหม่ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดวันนี้ (26 เม.ย.) ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติม 2,048 ราย ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 57,508 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8 ราย ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 148 ราย

ด้วยสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น เมื่อวัน 23 เมษายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงแผนบริหารสถานการณ์โควิด – 19 ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ (ทรท.) ในเรื่องแผนบริหารสถานการณ์โควิด-19 การจัดหาวัคซีน และความพร้อมการดูแลรักษาผู้ป่วย

ประเด็นหลักคือ รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 (ศบค.) กำลังประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถ้าหากมีการยกระดับมาตรการจะประกาศให้ทราบโดยทันที นอกจากนี้ รัฐบาลจะฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้ประชาชน 50 ล้านคนภายในปี 2564 และเตรียงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจเอาไว้แล้ว

ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมขอให้คำมั่นสัญญาว่า ผมและรัฐบาลจะทำทุกทางเพื่อให้เราผ่านวิกฤติในระลอกนี้ไปให้ได้ พวกเราทุกคนจะสู้ไปด้วยกันอีกครั้ง และผมเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของเราทุกคนประเทศไทยจะต้องเอาชนะโรคร้ายในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม วิกฤติ โควิด – 19 ระลอกที่ 3 ได้สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลอย่างหนัก เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากผู้ไม่พอใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลลาออก รวมถึงขอให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จาก ภท. ลาออกด้วย เนื่องจากไม่สามารถจัดการกับวิกฤติโควิด – 19 ในครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo