COVID-19

‘ชูวิทย์’ โต้เดือด ลิ่วล้อนายกฯ ก่อนไล่บี้จี้รัฐสืบหาหุ้นส่วน ‘คลับดังทองหล่อ’

“ชูวิทย์” โพสต์ร่ายยาวมีใครเคยสงสัยไหม เจ้าของสถานที่ “คลับทองหล่อ” คือใคร มีตัวตนมาจากไหน   ตอกกลับลิ่วล้อนายกฯ เป็นสุนัขที่มีเจ้านายเดียว ไม่ได้เป็น “สุนัขสองราง”

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดัง ยังออกมาเคลื่อนไหว วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสถานบันเทิงย่านทองหล่อ กลายเป็นต้นตอแพร่เชื้อโควิด-19 ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีนักการเมือง หรือบุคคลชั้นนำไปเที่ยว โดยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ @ChuvitKamolvisit” ระบุข้อความ  “หุ้นส่วน นอมินี อิทธิพล และลิ่วล้อ”

คริสตัลคลับ และเอ็มเมอรัล ลงทุนไปหลายร้อยล้านบาท สถานที่หรูหราโอ่โถง ตั้งอยู่ในทำเลที่ดินแพง ดั่งทองคำอย่างถนนทองหล่อ แหล่งรวมคอนโดหรูหรา ร้านอาหารแพงระยับ
มีใครเคยสงสัยไหมว่า เงินลงทุนมากมายขนาดนี้ เจ้าของสถานที่คริสตัลคลับ คือใคร มีตัวตนมาจากไหน ทำอาชีพอะไรมาก่อน รายได้ขนาดไหน เสียภาษีเท่าไหร่?

ชูวิทย์11 1

ข่าวว่าเจ้าของชื่อ อ๊อด ยังเป็นคนหนุ่ม 30 กว่าๆ แต่ขยายสาขาเป็นว่าเล่น แต่ละสาขาไหนจะค่าที่ ค่าก่อสร้าง ค่าตกแต่ง และที่สำคัญ คนไม่มีตัวตน ไม่มีที่มาที่ไป ไฉนจู่ๆ จะมาเปิดได้ยิ่งใหญ่แบบนี้?

คอนเน็คชั่นจากไหน? ใบอนุญาตสถานบริการมีหรือเปล่า? หรือว่าเป็นนอมินีใครให้ออกหน้ารับแทน? เรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจะหลับหูหลับตาเพราะเงินหรือเส้นสายใหญ่โต

แท้จริงใครคือหุ้นส่วนที่อยู่เบื้องหลังคลับดังแห่งนี้ ที่เป็นแหล่งรวมเหล่าลูกคนดัง ไฮโซ นักการเมือง เศรษฐีกระเป๋าหนักมาเที่ยว คนธรรมดาเดินดินกินเงินเดือน หาเช้ากินค่ำไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเหยียบเข้าไป

เรื่องอย่างนี้สิที่ผมว่า หน่วยงานสารพันของรัฐน่าจะสนใจมากกว่า ไม่ใช่ทำแบบขอไปที ให้เรื่องพ้นไปวันๆ แล้วแสร้งว่าเราเป็นคนดี ไม่กิน ไม่เที่ยว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสถานที่อโคจร แถมมาเอาเรื่องขู่เข็ญผม คนที่เอาเรื่องนี้มาพูดให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนสังคมไทย

คนทำมาหากินที่ต้องเดือดร้อน ด้วยมาตรการเข้มงวดที่เรียงหน้ากระดานกันออกมาแบบ “วัวหายล้อมคอก” เช้าสายบ่ายเย็นคำสั่งออกมาไม่หวาดไม่ไหว จนทั่วประเทศกระทบหนักเพราะคนติดจาก “คลับคนรวย” แต่พาลซวยเหมารวมปิดกันหมด

ttt

แต่ทีกับเจ้าของต้นตอแพร่กระจายโควิดอย่างคริสตัลคลับหรูอู้ฟู่ ที่รับเงินรายได้มากมายมหาศาล กลับไม่มีใครกล้าแม้แต่จะแตะ ว่าในความบกพร่องละเลยอย่างนี้สมควรต้องปิดไปเลยหรือไม่? เพราะแม้แต่ใบอนุญาตให้เปิดสถานบริการยังไม่มี

ซ้ำยังไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อสังคม และประชาชน ผู้ประกอบการอื่นๆ ที่พลอยเจอนโยบายปิดหมด 41 จังหวัด ระลอกแรกยังใช้หนี้ไม่หมด ระลอกสองสามยังตามมา คนจะเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ก็ไม่กล้า ต้องเก็บตัวอยู่กับที่ การท่องเที่ยวฟุบต่อ ความเชื่อมั่นสูญหาย ความเสียหายมากมายล้วนมาเกิดตั้งต้นจากคลับคนรวย

คำถามง่ายๆ ว่า “ทำไมความรับผิดชอบจึงตกอยู่กับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แถมสถานที่แพร่กระจายเพียงแค่ถูกปิดไป 14 วันเหมือนกันกับคนอื่นเพียงเท่านั้นหรือ ?”
ภาพสถานที่ ที่ผมโชว์ให้ดู ถือว่าหรูหราที่สุด ลงทุนสูงสุดในประเทศไทย หากสืบสาวให้ดีจะเจอว่า เงินลงทุนเหล่านี้ลงขันมาจากหุ้นส่วนธุรกิจใด?

ซ้ำรอยกับ “หลงจู๊สมชาย” ที่เรียกว่า “ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก”
คำตอบมีให้ แต่จะให้ปิดปาก หรือให้เปิดปาก?

เพราะผลประโยชน์ของสังคมที่จะได้รับจากข้อมูลนี้เป็นเดิมพันที่สูง ถือเป็นเรื่องน่าสนใจมากกว่าที่จะหว่านแหทำให้ที่อื่นๆ อีกทั่วประเทศเดือดร้อนไปด้วย
ผมและประชาชนพอจะมีสิทธิถามท่านรัฐบาลได้บ้างไหมครับ?

หรือว่าต้องให้นั่งฟังท่านแถลงห่วงแต่รักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล และชื่อ “ไทยคู่ฟ้า” ที่เอามาเปรียบเปรย

โดยมีลิ่วล้อนายกฯ ชมผมว่าแก่จนผมหงอก สุนัขเลียตูดไม่ถึง พูดไม่คิดไปทำให้นายกฯ เสียหาย

ผมคงต้องยอมรับ และขอบคุณที่เอาไปเปรียบกับสุนัข เพราะผมนั้นเป็นสุนัขที่มีเจ้านายเดียว ไม่ได้เป็น “สุนัขสองราง” เปลี่ยนนายได้เพียงเศษกระดูกแล้วยอมเลียแข้งเสียขาเอาใจเจ้านาย

อย่างน้อยที่เห่าไป เพื่อประโยชน์ของเจ้าของบ้านประชาชนในช่วงนี้ ดีกว่ามากัดกันเองครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight