COVID-19

สถานบันเทิง คลัสเตอร์แพร่โควิด ระลอกใหม่ สัปดาห์เดียว ติดเชื้อพุ่ง 31 ราย

สถานบันเทิง คลัสเตอร์แพร่โควิด อีกแล้ว สธ. เผยสัปดาห์นี้พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงหลายกรณี ทั้งคลัสเตอร์ทองหล่อ 13 ราย นครปฐม 6 ราย และปทุมธานี 12 ราย 

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อ จากการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ได้แก่ สถานบันเทิง คลัสเตอร์แพร่โควิด โดยเฉพาะ ผับ บาร์ และร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อหลายกรณี ที่เชื่อมโยงกับสถานที่ดังกล่าว ได้แก่

สถานบันเทิง คลัสเตอร์แพร่โควิด

  • กรณีนักศึกษาที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง 3 แห่ง ในปทุมธานีและ กทม. โดยมีผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ 12 ราย เป็นนักศึกษา 9 ราย และมีการนำเชื้อไปติดคนในครอบครัว
  • กรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิง จ.นครปฐม มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย ได้แก่ นักร้อง 3 ราย นักศึกษา 1 ราย พนักงานบริษัท 1 ราย และติดคนในครอบครัว 1 ราย
  • กรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งมีผู้ติดเชื้อ 4 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายไทยอายุ 24 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ไปเที่ยวร่วมกับเพื่อน ซึ่งต่อมาตรวจพบเชื้อเช่นกัน ยังรอติดตามผลการตรวจเพื่อนอีก 3 คน

ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค ได้ออกตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้สัมผัส ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย โดยจำนวนนี้ 1 ราย ให้ประวัติว่า นอกจากไปเที่ยวย่านทองหล่อแล้ว ยังไปเที่ยวต่อย่านรัชดา และพระราม 9 ด้วย กลุ่มที่สอง มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายอายุ 37 ปี จากการสอบสวนพบลูกชายติดเชื้อ 1 ราย ผู้ที่พูดคุยใกล้ชิด 1 ราย คนที่ทำงาน 4 ราย โดยจำนวนนี้ 1 รายนำเชื้อไปติดแฟน และแฟน นำเชื้อไปติดเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน อีกทอดหนึ่ง จึงเป็นการติดเชื้อต่อถึง 3 รุ่น

นพ.จักรรัฐกล่าวว่า สถานบันเทิงมีความเสี่ยงสูง ในการแพร่ระบาดของโรค ปัจจัยเสี่ยง คือ การคลุกคลีใกล้ชิดกัน พนักงานไม่สวมหน้ากาก พูดคุยเสียงดัง ขณะรับประทานอาหาร และดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกัน

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบการ และประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการ DMHTT คือ Distancing เว้นระยะห่างที่นั่ง ทั้งจุดรอคิว เวทีกับที่นั่ง ไม่ให้เกิดความแออัด Mask Wearing พนักงานและผู้ใช้บริการทุกคนต้องสวมหน้ากาก ยกเว้นช่วงรับประทานและดื่ม Hand washing จัดจุดบริการล้างมืออย่างเพียงพอ Testing วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนใช้บริการ และ Thaichana ให้สแกนไทยชนะ และใช้หมอชนะ เพื่อติดตามผู้สัมผัสได้ทันหากพบผู้ป่วย

นอกจากนี้ ขอให้ใช้ระบบจองคิว เพื่อลดความแออัด และงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แก่ผู้รับบริการที่มึนเมา เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและอุบัติเหตุ

สำหรับในการระบาดระลอกใหม่นี้ เคยพบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง ย่านบางพลัด และควบคุมได้แล้ว จึงไม่อยากให้มีการระบาดเกิดขึ้นอีก  และขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ช่วยกันเข้มงวดมาตรการป้องกันตนเอง และสแกนไทยชนะ ซึ่งจะช่วยตรวจจับการระบาดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ

ขณะที่ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ มีการผ่อนคลายมาตรการ คนเดินทางจำนวนมาก ขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลาที่เดินทาง เว้นระยะห่าง เลี่ยงสถานที่แออัด ก่อนเข้าใช้บริการมีการวัดอุณหภูมิ จึงอยากเน้นย้ำเพื่อไม่ให้ต้องกลับไปเพิ่มมาตรการควบคุมโรคอีก

ด้านสถานการณ์โควิด-19 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจาก 5 เหตุการณ์ ได้แก่

1. ตลาดย่านบางแค พบการระบาดเชื่อมโยงไปหลายจังหวัด จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และการค้นหาเชิงรุกต่อเนื่อง

2. สถานบริการ ผับบาร์ ร้านอาหาร พบผู้ติดเชื้อ ที่มีไทม์ไลน์ไปรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับเพื่อน หรือครอบครัว ในย่านพระราม 9 และทองหล่อ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี และนครปฐม

3. โรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชุมชน ใน จ.สมุทรสาคร ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และการค้นหาเชิงรุก

4. สถานที่กักตัว ASQ พบผู้เดินทางและบุคลากรติดเชื้อ จึงต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐานที่กำหนด

5. ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบการติดเชื้อทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยตักอาหาร และผู้ต้องกัก

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า วันนี้ ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 42 ราย คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 3 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รักษาหายเพิ่มขึ้น 58 ราย

ในส่วนของการติดเชื้อในระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 2 เมษายน 2564 มีผู้รักษาหายแล้ว 23,429 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.82 อยู่ระหว่างรักษา 1,242 ราย เสียชีวิตสะสม 34 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo