สธ. ย้ำประสิทธิภาพ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ลดอัตราป่วยรุนแรง-เสียชีวิต 100% ฉีดห่างกัน 3 เดือน ประสิทธิผลสูงถึง 81.39%
นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข หรือ สธ. ย้ำประสิทธิภาพ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากวันนี้ มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ให้กับ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายแพทย์ เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของวัคซีนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีผลยืนยันเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีน จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยจากโรค โควิด-19 โดยหลังจากรับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 22 วันจะมีประสิทธิผล 76% ยาวนานอย่างน้อย 90 วัน
นอกจากนี้ ยังพบว่า หลังจากให้เข็มแรกผ่านไปประมาณ 3 อาทิตย์ก็มีประสิทธิผลที่จะป้องกันการป่วยได้แล้วในระดับ 76% อีกทั้งจะมีประสิทธิผลสูงขึ้น ตามการเว้นระยะระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 โดยหากเว้นห่างกัน 12 สัปดาห์ขึ้นไป หรือประมาณ 3 เดือน ประสิทธิผลจะสูงถึง 81.39%
ขณะเดียวกัน ผลการวิจัยทางคลินิก หรือการทดลองในคน ยังพบว่า สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือการป่วยรุนแรงได้ 100% เพราะฉะนั้น ถ้าพูดถึงการป่วยหนัก การเสียชีวิต จะสามารถป้องกันได้ 100% ตั้งแต่เข็มแรก
ล่าสุด ยังมีผลการศึกษาเพิ่มเติม จากการนำไปใช้งาน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้น เนื่องจากเป็นช่วงการฉีดในภาวะฉุกเฉิน พบว่า ที่อังกฤษฉีดในคนที่อายุเกิน 80 ปีขึ้นไป หรือผู้สูงอายุค่อนข้างมาก ยังลดอัตราการป่วยระดับที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้มากถึง 80%
“ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การที่ประเทศไทย ได้รับการถ่ายทอด เทคโนโลยีนี้ เป็นการเลือกมาจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่ต้องดูมาตรฐานว่าผ่านเกณฑ์การผลิตได้อย่างมีคุณภาพ”นพ.เฉวตสรร กล่าว
ด้านภาพรวมการฉีดวัคซีนของประเทศไทย วันที่ 15 มีนาคม มีผู้ได้รับวัคซีนรวม 3,790 ราย แบ่งเป็น บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข อสม. 332 ราย, เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 280 ราย, บุคคลที่มีโรคประจำตัว 625 ราย, ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 2,553 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 15 มีนาคม รวม 50,388 ราย แบ่งเป็น บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข อสม. 29,634 ราย, เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 10,281 ราย, บุคคลที่มีโรคประจำตัว 2,640 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 7,833 ราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศไทย วันที่ 16 มีนาคม พบผู้ป่วยรายใหม่ 149 ราย มาจากการติดเชื้อในประเทศ 144 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย
จากผู้ติดเชื้อในประเทศ 144 ราย มาจาก ระบบการเฝ้าระวังและระบบบริการ 21 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 123 ราย จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม ในระลอกใหม่ 22,917 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 22,1 22 ราย หรืออัตราการหายป่วย 96%
เมื่อแยกจำนวนผู้ป่วยรายจังหวัดจาก 144 รายวันนี้ พบว่า มาจากจังหวัดสมุทรสาคร 34 ราย, กรุงเทพฯ 100 ราย, ปทุมธานี 4 ราย, นครปฐม 3 ราย, เพชรบุรี 1 ราย และราชบุรี 1 ราย
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดบางแค มีการปิดตลาดทั้ง 6 ตลาด เพื่อทำความสะอาด และปรับปรุงสุขาภิบาล รวมทั้งจัดระเบียบการเข้าตลาด โดยอาศัยอำนาจ สำนักงานเขต และสำนักงานตลาด ปิดให้บริการ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-18 มีนาคม 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สรุป! ฉีดวัคซีนโควิด 2 สัปดาห์ ‘ฉีดเข็มที่ 1’ ครบตามเป้าแล้ว 10 จังหวัด
- ‘หมอยง’ ชวนฉีดวัคซีน ช่วยชาติพ้นวิกฤติโควิด เปิดรับอาสาสมัคร วิจัยภูมิต้านทาน
- ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ แจงยิบ ‘วัคซีนโควิด’ ปลอดภัย!