ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หารือ “อนุทิน” ขอนำเข้าวัคซีนโควิด-19 “Sputnik V” เพื่อการวิจัยและใช้ แบบฉุกเฉิน จากความร่วมมือ RDIF ของรัสเซีย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้แทนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ขอเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เพื่อหารือด้านความร่วมมือกับ กองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund: RDIF)
นอกจากนี้ ยังมีนายพลพีร์ สุวรรณฉลี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง, นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เข้าร่วมหารือด้วย
สำหรับประเด็นการหารือในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ร่วมมือกับ Gamaleya Research Institute of Epidemiology and Microbiology, RDIF ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้มีกรรมสิทธิและผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Sputnik V ใน 3 ประเด็นประกอบด้วย
- การนำเข้าวัคซีนโควิด-19 Sputnik V เพื่อการวิจัยและการใช้แบบฉุกเฉิน (Emergency Use)
- ความร่วมมือ ในการศึกษาและวิจัยทางคลินิก Sputnik Lite(Sputnik26)
- ความร่วมมือในการจัดทำ Travelling Vaccine Passport
การนำเข้าวัคซีนโควิด-19 Sputnik V เพื่อการวิจัยและการใช้แบบ Emergency Use จะดำเนินการโดยบริษัทจุฬารัตน์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้นำเข้าและยื่นขออนุญาตจาก อย.
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังเห็นว่า เป็นโอกาสดี ที่ประเทศไทยจะได้ศึกษาวัคซีนโควิด-19 ได้หลากหลายขึ้น ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลก็เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้อยู่แล้ว เพียงแต่ดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข และขั้นตอนทางเอกสารที่ครบถ้วน
ทั้งนี้ RDIF เป็นองค์กรในสังกัดรัฐบาลรัสเซีย ที่นอกจากจะเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัสเซีย ที่ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศในสินทรัพย์ของรัสเซียแล้ว ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 RDIF ได้มีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน แก่โครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของรัสเซีย หรือโครงการ Sputnik V ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม