COVID-19

ฉีดวัคซีนกันเถอะ! แพทย์ยัน ทางออกคุมโควิดระบาด ต้องมีภูมิคุ้มกัน

ทางออกคุมโควิดระบาด หมอศิริราช ร่วมยืนยัน การฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอัตราการป่วย ฟื้นสภาพเศรษฐกิจสังคมไทย กลับภาวะปกติ

ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนเป็น ทางออกคุมโควิดระบาด โดยประโยชน์ และความจำเป็น ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชน นั้น มีวัตถุประสงค์หลัก ของการฉีดวัคซีน คือ

ทางออกคุมโควิดระบาด

  • ป้องกัน และลดความรุนแรงของโรค โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง
  • ปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ
  • ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดขึ้น ในแต่ละประเทศ อาจจะมีการใช้แนวทาง ในการควบคุม และป้องกันโรค ที่แตกต่างกันไป โดยมีแนวทาง ดังนี้

แนวทางแรก การใช้วิธีให้มี ภูมิคุ้มกันหมู่

ปัจจุบัน มีบางประเทศใช้แนวทางนี้แล้ว แต่เมื่อผ่านไป 6 เดือน พบว่า เป็นแนวทางที่ไม่สามารถใช้ได้ผล กับการระบาด ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ เกิดผลเสียมากกว่าผลดี มีประชากรเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก และภูมิคุ้มกัน ที่เกิดจากการติดเชื้อของแต่ละคน ไม่สามารถเพียงพอ กับการสร้างภูมิคุ้มกันได้ ทำให้หลายประเทศ ต้องทบทวนนโยบายใหม่

แนวทางที่สอง ใช้วิธีการเว้นระยะห่างทางสังคม และการใส่หน้ากากอนามัยเป็นหลัก

แนวทางนี้ แม้จะพบว่า มีการระบาดน้อยกว่าแนวทางแรก แต่ก็ยังพบผู้เสียชีวิต และแนวทางนี้ อาจต้องใช้เวลานาน ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่เพียงพอ ซึ่งความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อาจไม่สามารถรอได้

แนวทางที่สาม การได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่า 50-60% ของประชากรในประเทศ

ถือว่าเป็นวิธีการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับ มาตรการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อย่างเคร่งครัดต่อไป ทั้งการล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่าง

ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต

สำหรับปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด มีผลกระทบมาก ต่อภาคเศรษฐกิจ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั่วโลก ดังนั้น วิธีการเดียว ที่จะสามารถกลับมาใช้ชีวิต ได้ใกล้เคียงปกติเร็วที่สุด คือ การฉีดวัคซีน

การฉีดวัคซีน เป็นวิธีสำคัญ ที่ช่วยควบคุมการระบาด ของโรคติดเชื้อใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะโรคที่ติดเชื้อได้ง่าย ผ่านระบบทางเดินหายใจ เช่น โควิด-19 คู่กับ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การล้างมือ และการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และเร็วที่สุด ที่จะทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ขณะที่ การฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน จะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และอยู่ภายใต้ความปลอดภัย เป็นอันดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี อาการไม่พึงประสงค์ ภายหลังการฉีดวัคซีน มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ เช่น ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และอยู่ในเกณฑ์ ที่สามารถยอมรับได้

ทั้งนี้ แม้จะเป็นผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า มีภูมิต้านทานเพียงพอ ที่จะป้องกันการแพร่ระบาด หรือการกลับมาติดเชื้อซ้ำได้ รวมทั้งยืนยันว่า ไม่มีโอกาสจะติดโควิดได้ จากการได้รับวัคซีน เพราะวัคซีนที่ใช้นั้น เป็นการผลิตขึ้น จากไวรัสเชื้อตายแล้ว

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนไม่ใช่การบังคับ เป็นเรื่องของความสมัครใจ แต่เมื่อประชาชน รับทราบข้อดีของวัคซีนแล้ว ก็น่าจะตัดสินใจฉีดวัคซีน แม้จะมีโอกาส เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น บวม มีไข้ หนาว แต่ก็สามารถดูแลได้ เช่น ประคบเย็น และทานยาลดไข้ เป็นต้น

ขณะที่ ศบค. ระบุว่า แผนการกระจายวัคซีน จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1 วัคซีนมีจำกัด

ผู้ที่จะได้รับคือ บุคลากรสาธารณสุข ทั้งรัฐและเอกชน ผู้มีโรคประจำตัว ผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าที่หน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ เช่น จนท.ในสถานกักกันโรค

  • ระยะที่ 2 วัคซีนมีมากขึ้น และเพียงพอ

จะฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายระยะที่ 1 ให้ครบ หลังจากนั้นจะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุขอื่น ๆ ผู้ประกอบอาชีพท่องเที่ยว ผู้เดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักบิน ลูกเรือ นักธุรกิจ ประชาชนทั่วไป นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ แรงงานในภาคอุตสาหกรรม และบริการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo