COVID-19

สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด ปทุมธานี กทม. แม่สอด พร้อมเผยไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิต 2 ราย

สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด แนวโน้มดีขึ้น ทั้งปทุมธานี กทม.เคสจุฬาลงกรณ์ แม่สอด เผยผู้เสียชีวิต 2 ราย เสี่ยงสูง ย้ำระวังผู้สูงอายุติดในครอบครัว

นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข หรือ สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ ตลาดพรพัฒน๋ ปทุมธานี, มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ และโรงงาน ในกรุงเทพมหานคร และแม่สอด ภาพรวมแนวโน้มดีขึ้น

สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด

สำหรับ ตลาดพรพัฒน์ ปทุมธานี จากการตรวจเชิงรุก พบอัตราการติดเชื้อลดลง โดยจากการตรวจเชิงรุกครั้งแรก ที่เชื่อมโยงผู้ป่วยรายแรก 400 คน พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ต่อมาจากการตรวจเชิงรุก 1,000 – 1,500 คน พบอัตราการติดเชื้อลดต่ำลงมาอยู่ที่ 5-9%

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่เดินทาง มาค้าขาย ซึ่งพบการติดเชื้อที่จังหวัดเพชรบุรี จึงต้องค้นหาเชิงรุกที่เพชรบุรีต่อ

ในส่วนของ กรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ติดเชื้อในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ล่าสุด ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายงานเข้ามาต่อเนื่องกัน 4 วันแล้ว โดยรายสุดท้ายที่มีการรายงานเข้ามาเป็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์

ส่วนโรงงานที่เขตบางขุนเทียน และภาษีเจริญ มีการทำความสะอาด และค้นหาผู้ติดเชื้อ รวมถึงติดตามกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำความสะอาดตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ จึงขอให้ประชาชนวางใจ ในมาตรการความเข้มข้นของการตรวจคัดกรอง ติดตามโรค

สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด
นพ.เฉวตสรร นามวาท

ด้านสถานการณ์แม่สอด จังหวัดตาก ยังคงพบผู้ติดเชื้อ จากการค้นหาเชิงรุก ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

สำหรับ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในประเทศไทยวันนี้ 143 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 64 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 68 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 772 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 15 กุมภาพันธ์ 2564 มีจำนวน 20,477 ราย หายป่วยสะสม 18,706 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษา 1,749 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 คน

ขณะที่รายละเอียด ผู้เสียชีวิต  นั้น รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 62 ปี มีโรคประจำตัว คือเบาหวาน ไตเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง ปอดบวมน้ำ และ รายที่สอง ชายไทย อายุ78 ปี มีโรคประจำตัวคือ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ติดเชื้อจากการรับประทานอาหารร่วมกับลูกสาว ที่มีเชื้อโควิด 19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 22 คน

ไวรัส๔ e1613393849986

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือ ลูก หลาน บุคคลใกล้ชิดผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงสูง หากติดเชื้อจะมีความรุนแรง และ อาจเสียชีวิตได้

“การป้องกันคนในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเข้มในเรื่องความสะอาดส่วนบุคคล สวมหน้ากากตลอดเวลา รักษามาตรการเว้นระยะ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรแยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว หมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด 19″นพ.เฉวตสรร กล่าว

สธ.สรุป คลัสเตอร์โควิด

นอกจากนี้ ประชาชนคงเข้มมาตรการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ เมื่อออกจากบ้านไปตลาด หรือไปในที่สาธารณะ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า 100% ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง สแกนไทยชนะ และโหลดแอปหมอชนะ เพื่อช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาด และลดจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo